หน้าจอ: ถึงแม้จะไม่ใช่แบบ HD แต่ก็ชัดนะเออ
Lumia 720 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียดระดับ WVGA (ที่ 800x480 Pixel)
ถ้ามองตามตัวเลขใน spec หน้าจอของ Lumia 720 ก็น่าจะไม่ต่างกับจอของ Lumia 620 และ 520 รวมถึง 820 ครับ เพราะความละเอียดจอเท่ากันหมด แถมถ้าตามตัวเลขแล้วหน้าจอของ Lumia 720 ยังจะมีความหนาแน่นของ Pixel ที่ต่ำกว่า Lumia 620 และ 520 ซะด้วยซ้ำ (เพราะหน้าจอขนาดใหญ่กว่า)
แต่พอได้เริ่มลองเล่นดูแล้วจะพบว่า หน้าจอของเจ้า Lumia 720 น่าประทับใจไม่ใช่เล่นครับ ด้วยเทคโนโลยี Clear black ที่ช่วยให้ หน้าจอมีมุมมองที่ค่อนข้างกว้าง (Viewing angle) สามารถมองได้กว้างเกือบๆ 180 องศา และกระจกแบบ Gorilla Glass ที่ใช้บนหน้าจอก็ใสและทำให้การแสดงผลค่อนข้างน่าประทับใจมาก
หน้าจอสีสด..แม้จะเปลี่ยนมุมมองแต่ก็ยังสามารถให้การรับชมที่ชัดเจน
หน้าจอของ Lumia 720 ถูกออกแบบมาให้มีขอบโค้งลงแบบ Lumia 920 ซึ่งตรงจุดนี้ ถ้าคนที่ชอบก็จะชอบไปเลย แต่ถ้าคนที่ชอบหน้าจอแบบเรียบเสมอกันหมดแบบ Lumia 520, 620, 820 ก็อาจจะไม่ชอบในจุดนี้เท่าไหร่ครับ (แต่สำหรับผม ผมชอบนะ มันสวยดี...แต่ทั้งนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ)
หน้าจอโค้งเข้ากับขอบเครื่องดี
ติดแค่นิดเดียวคือ ความละเอียดของหน้าจอที่น้อยไปซักหน่อย ทำให้การอ่าน text ต่างๆมันไม่สบายตานัก เมื่อเทียบกับมือถือยี่ห้อและรุ่นอื่นๆในปัจจุบันที่ส่วนมากเริ่มใช้ความละเอียดที่สูงกว่านี้แล้ว แต่อย่างที่บอกไป ความละเอียดที่น้อย ก็ถูกชดเชยด้วยความสวยของหน้าจอไปในตัว
ด้วยความละเอียดของหน้าจอที่น้อยไปซักนิด ทำให้การอ่าน text เยอะๆอาจไม่สบายตาในช่วงแรกๆสำหรับคนที่เคยใช้มือถือที่ความละเอียดหน้าจอสูงกว่านี้มาก่อน แต่ถ้าชินแล้วก็ไม่มีปัญหาครับ
การใช้งานทั่วไป
Nokia Lumia 720 มาพร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon™ S4 แบบ Dual-Core ความเร็ว 1 GHz และมี Ram ภายในตัวเครื่อง 512 MB
จากสเปคนี้ จะพบว่าเจ้า Lumia 720 มีองค์ประกอบภายในเท่ากับ Lumia 620 และ 520 ไม่ผิดเพี้ยน เพราะฉะนั้นความเร็วในการใช้งานและความลื่นไหลต่างๆของ Lumia ทั้ง 3 รุ่นนี้ แทบไม่ต่างกัน
แต่ทั้งนี้ประสบการณ์ในการใช้งานของ Lumia 720 จะต่างกันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Lumia 820 และ 920 ครับ ไม่ว่าจะในแง่ความเร็วในการเปิดเว็บ การโหลดข้อมูลต่างๆหรือการสลับไปมาระหว่างแอพนั้น เจ้า Lumia 720 จะทำได้ช้ากว่ารุ่นพี่อยู่เล็กน้อย ไม่ถึงกับเลวร้ายแต่รู๋สึกได้แน่นอน (ผมไม่มีเครื่องอัดวิดีโอเพื่อเปรียบเทียบการใช้งาน...เสียดายจริงๆ)
ทั้งนี้ ข้อนึงที่ต้องโน๊ตเอาไว้คือ ด้วยราคาของเจ้า Lumia 720 ที่ต่างกับรุ่นพี่ค่อนข้างเยอะ...ความต่างในเรื่องความเร็วในการใช้งาน ส่วนตัวผมถือว่าอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล และยังขอยืนยันว่าเจ้า Lumia 720 ก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่อยู่ในระดับลื่นไหลอยู่ดี เมื่อเทียบกับระบบอื่นๆในระดับราคาที่เท่ากัน
โหลด Facebook และแอพอื่นๆได้เร็วดี และการใช้งานลื่นไหลดี
ทั้งนี้ จุดที่อยากให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อเจ้า Lumia 720 อยู่ต้องชั่งใจอีกทีมี 2 ส่วนคือ
1. ถึงแม้ผมจะบอกว่าประสบการณ์ในการใช้งานของเจ้า Lumia 720 จะลื่นไหลไม่แพ้ Lumia รุ่นพี่ แต่ทั้งนี้ด้วยสเปคที่ต่างกันในเรื่องของ Ram ที่มีแค่ 512 MB ทำให้เจ้า Lumia 720 นี้ไม่สามารถเล่นเกมส์หลายๆเกมส์ที่ต้องการ Ram 1 GB ในการเล่น ซึ่งทำให้คนที่ชอบเล่นเกมส์จริงๆอาจจะต้องคิดหนักกันหน่อยนะครับ
หน้าจอที่เป็นฝันร้ายของผู้ใช้ Windows Phone ที่มี Ram น้อยกว่า 1 GB ครับ
2. อีกข้อนึงคือ ด้วยความจุของเครื่องที่มีอยู่ 8 GB และด้วยสาเหตุที่ระบบ Windows Phone ยังไม่รองรับการย้ายแอพหรือเกมส์ไปลงที่ MicroSD แบบที่ระบบอื่นอย่าง Android สามารถทำได้ บางครั้งความจุแค่ 8 GB อาจจะไม่พอสำหรับคนที่ชอบโหลดแอพหรือเกมส์เยอะๆ ครับ และด้วยความที่ตัว OS ของระบบ Windows Phone นั้นใช้พื้นที่ถึง 1.95 GB เพราะฉะนั้นจะมีพื้นที่จริงให้เหลือใช้ประมาณ 6 GB นะครับ
ทั้งนี้ ถ้าคุณไม่ค่อยเป็นคนที่เล่นเกมส์เยอะๆหรือชอบมีเกมส์ในเครื่องเยอะๆ เจ้า Lumia 720 ก็สามารถใช้งานทั่วๆไปได้สบายๆครับ
ถ้าเป็นคนไม่ลงแอพมากมาย และไม่เล่นเกมส์เยอะ...แค่นี้เหลือๆครับ แต่ถ้าคุณชอบเล่นเกมส์ใหญ่ๆ อาจต้องลองเล็งตัวเลือกอื่นๆอย่าง Lumia 920 แทน หรือต้องรอจนกว่า Microsoft จะพัฒนาให้เราย้ายแอพไปลงที่ SD Card ได้แบบระบบอื่น
การใช้งานด้านความบันเทิง:
ถึงแม้ Lumia 720 จะไม่ได้มาพร้อมหน้าจอที่สุดยอดระดับ Full HD หรือมี CPU ระดับ Quad-Core หรือแรมระดับ 1 GB
แต่ทั้งนี้ ประสบการณ์ใช้งานในแง่ของความบันเทิงในมือถือก็ไม่ด้อยไปกว่ารุ่นอื่นๆครับ การดูหนังไฟล์ HD ด้วยการเอาไฟล์หนังไปไว้ในมือถือหรือ SD Card และการดูไฟล์ YouTube แบบ HD ก็สามารถทำได้อย่างดี ภาพของไฟล์หนังแบบ HD ก็แสดงผลออกมาสวยงามไม่แพ้มือถือระดับบนๆตัวอื่นๆเลย ตัวอย่างดังภาพครับ
โดยรูปแบบไฟล์ที่สามารถใช้งานได้บนระบบ Windows Phone 8 ก็มีตามนี้ครับ:
MP4, WMV, AVI, 3GP, 3G2, M4V, MOV
ขนนกเป็นขนนก.. ภาพไหลลื่นไม่มีสะดุด
ถึงแม้ในหัวข้อที่แล้ว ผมจะเขียนถึงข้อจำกัดของการเล่นเกมส์ที่ต้องการ Ram ระดับ 1 GB แต่อย่างไรก็ดี จำนวนเกมส์ที่ต้องการ Ram ระดับ 1 GB นั้นยังมีไม่มากนักใน Store และเจ้า Lumia 720 นั้นสามารถเล่นเกมส์ทั่วไปใน Store ได้อย่างไหลลื่นดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เกมส์อื่นๆที่เล่นได้บน Ram 512 MB ก็สามารถเล่นได้ลื่นไหล และภาพที่ได้ก็สวยงามเพราะคุณสมบัติของหน้าจอที่ให้ภาพได้สวยงามดี
การฟังเพลงก็ทำได้ดีเหมือนระบบ Windows Phone ตัวอื่นๆ ซึ่งสามารถฟังเพลงในรูปแบบไฟล์ ASF, MP4, AAC, AMR, MP3, M4A, WMA, 3GP, 3G2 ได้
ทั้งนี้ ข้อสังเกตอีกอย่างสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงคือ เจ้าหูฟังที่แถมมากับชุดจัดจำหน่ายนั้น...ให้คุณภาพเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก และยังไม่มีปุ่มรับสายอีกด้วย (แต่ใช้เป็น small talk ได้) ทำให้ผู้ที่อยากฟังเพลงแล้วได้เสียงคุณภาพดีๆ อาจต้องหาหูฟังดีๆอีกสักอันมาจับคู่ด้วย (ส่วนตัวผมใช้ฟังเพลงกับหูฟัง Monster WH-920 ก็พบว่าคุณภาพเสียงที่ได้...ดีขึ้นเยอะและน่าจะถึงขั้นดีเลยครับ :)
หูฟังที่ผมได้มากับกล่องที่มาพร้อมเครื่องสำหรับรีวิว....เสียงยังไม่ประทับใจ แต่ก็ดีตามระดับราคาครับ
อีกข้อนึงที่ผมสังเกตเจอก็คือ เวลาเราเสียบหูฟังเข้ากับตัวเครื่อง จะพบว่าเจ้าหูฟังนั้นจะเสียบได้ไม่สุดและบางครั้งมันทำให้เสียงของหูฟังไม่ออกครบทั้ง 2 ข้างในบางครั้ง ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะกับเครื่องที่ผมได้มารีวิว หรือเป็นกับทุกเครื่อง ยังไงท่านที่จะซื้อก็ลองตรวจสอบจุดนี้กันด้วยนะครับ
เสียบจนสุดแล้ว ได้เท่านี้เอง... ต้องมีการหมุนหาตำแหน่งกันเล็กน้อยเพื่อให้เสียงออกทั้ง 2 ข้าง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นกับทุกเครื่องมั้ยนะครับ
แต่พอผมเอาหูฟังจากเครื่องอื่น ยี่ห้ออื่นมาใช้ ปรากฏว่าสามารถเสียบได้จนสุดและไม่มีปัญหาเรื่องเสียงหาย คาดว่าน่าจะเป็นเพราะหูฟังที่มากับเครื่องรีวิวของผมอาจจะมีอะไรผิดปกติครับ
นอกเหนือจากจุดนี้แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร การฟังเพลงสามารถปรับ Equalizer ได้เมื่อเสียบหูฟัง และรองรับระบบ Dolby headphone ที่ช่วยให้คุณภาพเสียงดีขึ้นกว่าเดิม
อีกเรื่องคือ ส่วนของลำโพงที่มากับ Lumia 720 นั้น อยู่บริเวณด้านหลังเครื่องตามรูปครับ ซึ่งคุณภาพของเสียงที่ได้นั้นก็ออกมาดี เสียงจากลำโพงค่อนข้างดัง แต่มีข้อตินิดนึงคือด้วยตัวลำโพงอยู่ด้านหลังเครื่องพอดี อาจจะทำให้เสียงออกมาได้ไม่เต็มที่ เมื่อเราวางเครื่องแบบหงายหน้าจอไว้ครับ
ลำโพงดูเล็กๆ แต่เสียงดังไม่เบาเลยครับ
กล้องหลัง: ใช้งานได้ดีทั้งสภาวะแสงปกติและแสงน้อย
จุดขายจุดหนึ่งของเจ้า Lumia 720 คือส่วนกล้องครับ โดยส่วนกล้องของ Lumia 720 มีคุณสมบัติเด่นๆที่ทาง โนเกียแจ้งเอาไว้ตามนี้
กล้องหลัก
- ความละเอีด 6.7 ล้านพิกเซล
- ใช้เลนส์แบบ Carl Zeiss ซูมภาพแบบ Digital zoom ได้ 4 เท่า
- มีระบบ Auto Focus
- f/1.9
- มีแฟลชแบบ LED
จุดเด่นจุดหนึ่งที่ทางโนเกียใช้เป็นจุดขายตอนโปรโมทเจ้า Lumia 720 คือการถ่ายรูปในที่แสงน้อย ด้วยประโยชน์ของรูรับแสงขนาดใหญ่ถึง f/1.9 ซึ่งถือว่ามากที่สุดในมือถือตอนนี้ (ในขณะที่รุ่นพี่อย่าง Lumia 920 เองมีรูรับแสงขนาด f/2.0 เท่ากับคู่แข่งที่ถูกเอามาเปรียบเทียบบ่อยๆอย่าง HTC One)
จากที่ผมได้ทดลองถ่ายรูปมา ผลที่ได้ต้องบอกว่าน่าประทับใจครับ เพราะในแง่ของการถ่ายภาพทั้งในสภาวะแสงปกติ และสภาวะแสงน้อยนั้น ทำได้ออกมาได้ดี และในหลายๆรูปผมว่าผลออกมาจะดูดีกว่าภาพที่ได้จาก Lumia 920 ของผมซะอีก
แต่จุดนึงที่ผมสังเกตคือ ถ้าเราดูรูปที่ถ่ายมาจากหน้าจอของ Lumia 720 เอง เราจะรู้สึกว่าภาพที่เห็นมันแตกๆหน่อย คุณภาพอาจจะไม่ประทับใจ แต่ถ้าเราเอาไปดูบนเครื่องที่มีหน้าจอละเอียดกว่า หรือดูบนคอมจะเห็นว่าคุณภาพของภาพออกมาดีกว่าเยอะพอสมควรครับ
ตัวอย่างรูปที่ถ่ายด้วย Nokia Lumia 720 และเปรียบเทียบกับ Lumia 920 ของผม (ที่เทียบกับ 920 เพราะไหนๆ โนเกียก็ชูจุดขายเรื่องการถ่ายรูปในสภาวะแสงน้อยแล้ว ก็ต้องเทียบกับรุ่นที่มีจุดเด่นแบบเดียวกันนะครับ) ทุกรูปที่ถ่ายไม่ได้ปรับแต่งอะไร และถ่ายด้วย mode auto ทั้งหมดครับ
** ทุกรูปสามารถกดเพื่อดูรูปใหญ่ได้นะครับ
สภาวะแสงปกติ (เสียดายว่าตอนที่ผมทดสอบ ฝนดันตกมา ทำให้ภาพจะออกแนวหม่นๆมืดๆหน่อยครับ)
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
ต่อมา เป็นสภาวะแสงน้อย แต่เปิดไฟห้อง
จะเห็นว่าภาพของ Lumia 720 จะเบลอๆกว่า ซึ่งผมก็ถ่ายไว้หลายรูปมากเหมือนกัน แต่รูปที่เอามาลงนี่ก็คัดที่ดีที่สุดมาแล้วครับ ผลที่ได้ไม่ได้แย่ ออกไปทางค่อนข้างน่าประทับใจ เพราะความจริงถึงจะเปิดไฟ แต่มันเป็นไฟสลัวๆหน่อย
อาจจะเพราะ Lumia 720 ไม่ได้มาพร้อมระบบกันสั่น OIS ในตัว ทำให้การจะถ่ายรูปในที่แสงน้อยให้ได้ดีๆ ต้องอาศัยมือที่นิ่งพอสมควร หรืออาจต้องอาศัยขาตั้งกล้องมาช่วยครับ
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
สภาวะแสงน้อย ในห้องเดิม แต่ปิดไฟ
เป็นห้องเดิมที่ใช้ถ่ายรูปด้านบน แต่ปิดไฟครับ ซึ่งแหล่งกำเนิดแสงในรูปนี้แทบไม่มีเลย ผมลอง capture หน้าจอก่อนถ่ายออกมา ได้แบบนี้ครับ
ภาพก่อนกดถ่ายรูป
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
สภาวะแสงน้อย แบบเปิดและไม่ใช้แฟลช
ส่วนตัวผมไม่ได้ทดสอบการถ่ายรูปด้วยแฟลชมา เพื่อแสดงผลที่ได้จากการใช้คุณสมบัติถ่ายในที่แสงน้อยอย่างเดียวเลยครับ
ภาพจากหน้าจอก่อนถ่าย
ภาพจาก Lumia 720
ภาพจาก Lumia 920
ภาพจากหน้าจอก่อนถ่าย
ภาพจาก Lumia 720
ภาพจาก Lumia 920
ภาพจาก Lumia 720
ภาพจาก Lumia 920
แถมรูปสุดท้าย..สภาวะไม่มีแสงเลย
ภาพจาก Lumia 720
ภาพจาก Lumia 920
จะเห็นว่า ภาพที่ได้จาก Lumia 720 ก็น่าประทับใจพอสมควรครับ สามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยออกมาได้ดี ถึงแม้จะยังสู้รุ่นพี่ไม่ได้เพราะไม่มีระบบ OIS มาด้วย แต่ด้วยราคาที่ต่างกันพอสมควรนั้น...ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ความสามารถของ Lumia 720 ในเรื่องการถ่ายรูปในที่แสงน้อยนั้น ถือว่าเป็นมือถือที่ทำได้ในลำดับต้นๆของตอนนี้เลยครับ
กล้องหน้า: ชัดจริงสมกับที่โฆษณา
กล้องหน้าของ Lumia 720 ตามคุณสมบัติที่โนเกียประกาศออกมา มีคุณสมบัติตามนี้ครับ
- ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล แบบ Wide angle
- f/2.4
คุณภาพของกล้องหน้าของ Lumia 720 นั้น ต้องบอกว่าคุณภาพสูงที่สุดในตระกูล Lumia ตอนนี้แล้วครับ แต่ก็อาจจะยังไม่ชัดเท่ายี่ห้ออื่นๆอย่าง iPhone หรือมือถือ Android อื่นๆที่ทำออกมาเน้นกล้องหน้า โดยเฉพาะ
ตัวอย่างภาพที่ได้จากการถ่ายด้วยกล้องหน้าของ Lumia 720 เทียบกับ Lumia 920 ผลตามนี้ครับ
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
รูปจาก Lumia 720
รูปจาก Lumia 920
จะเห็นได้ว่าสำหรับกล้องหน้านั้น ภาพจาก Lumia 720 จะออกมาดูดีกว่า และภาพจะไม่ถูกดึงยืดด้วยสเกลแปลกๆแบบภาพจาก Lumia 920 และคุณภาพของภาพก็ต่างกันพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับสาวๆน่าจะถูกใจ :)
วิดีโอ: ไม่ถึงขนาด Full HD, แต่ 720p ก็ชัดพอตัว
Nokia Lumia 720 มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่ 2 ความละเอียดคือ ที่ความละเอียดสูงสุด 720p และความละเอียดระดับ WVGA นอกจากนี้เจ้า Nokia Lumia 720 ยังมาพร้อมกับไมโครโฟนแบบ HAAC แบบที่ใช้ใน Lumia 920 ซึ่งทำให้เสียงที่ได้จากการอัดวิดีโอนั้น ออกมาน่าพอใจพอสมควรครับ
VIDEO
อายุแบตเตอร์รี่: แบตน่าจะอึดที่สุดในตระกลู Lumia ทั้งหมด
Nokia Lumia 720 มาพร้อมกับแบตเตอร์รี่ขนาด 2,000 mAh เท่ากับ Lumia 920 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความจุแบตสูงสุดในตระกูล Lumia ทั้งหมดในปัจจุบัน
ตามตัวเลขที่ทางโนเกียเปิดเผยออกมา มีการอ้างว่าเจ้า Lumia 720 สามารถใช้ทั่วไปและใช้งาน 3G ด้วยได้ถึง 13.4 ชั่วโมง (จากข้อมูล
ที่นี่ ครับ)
แต่แน่นอนว่านั่นเป็นตัวเลขตามทฤษฎีที่ปกติมันเป็นไปไม่ได้ในสภาพการใช้งานจริง ซึ่งจากที่ผมอยู่กับเจ้า Lumia 720 มา 1 อาทิตย์ ผมก็เห็นว่ามันไม่ได้อยู่ได้ยาวนานแบบนั้นครับ
แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ดี เพราะจริงๆแล้ว อายุการใช้งานของแบตเตอร์รีของเจ้า Lumia 720 นั้นน่าประทับใจจริงๆ เพราะอายุการใช้งานแบตเตอร์รี่เฉลี่ยของผมอยู่ที่ 10-12 ชั่วโมงซึ่งการใช้งานของผมก็ตามนี้ครับ
- โทรวันละ 2-3 ชั่วโมง
- เล่นอินเตอร์เน็ตผ่าน 3G เรื่อยๆ เป็นระยะๆ ทั้ง facebook, line, twitter และอ่าน RSS Feeds
- ถ่ายรูปเล่นเป็นพักๆ
- เปิด 3G ไว้ตลอดเวลา
- เปิด Location service ไว้ตลอดเวลา
- ปิด NFC, Bluetooth, Super sensitive touch, Sunlight readability
- ปรับความสว่างหน้าจอเป็นแบบ Medium
ถือว่าแบตอึดกว่าเจ้า Lumia 920 ของผมอย่างเห็นได้ชัด แต่แน่นอนครับนี่คือการใช้งานของผม ตัวเลขนี้คงเอาเป็นมาตรฐานอะไรไม่ได้ เพราะการใช้งานของแต่ละคนนั้นต่างๆกันไป
แต่ผมใช้งานเครื่อง Lumia 720 แทนเจ้า 920 ของผมเลย 1 อาทิตย์ด้วยสภาวะการทำงานต่างๆเหมือนกันหมด และความแตกต่างของอายุการใช้งานแบตเตอร์รี่นั้น...สำหรับผมรู้สึกได้จริงๆครับ
อายุการใช้งานเฉลี่ย ประมาณนี้ครับ ถอดแบตตอนเช้า ถึงบ้านค่ำก็หมดพอดี
7 วันกับเจ้า Lumia 720
สรุปโดยรวมที่ผมได้ใช้งานเจ้า Lumia 720 มา ฟังก์ชั่นหลักๆของตัวเครื่องก็ตามที่เขียนรีวิวไปครับ แต่นอกเหนือจากนั้นก็จะมีการใช้งานอื่นๆที่ขอสรุปเอาไว้ตรงนี้ตามนี้
เสียงสนทนา
สำหรับผม เสียงสนทนาชัดเจนดี คุณภาพไมค์ HAAC ของ Nokia ยังให้เสียงสนทนาที่ชัดใสปกติ ผมใช้เจ้า Lumia 720 ติดต่อทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวปกติตลอด 1 อาทิตย์ที่ใช้แทนเจ้ายักษ์ 920 คู่กาย ก็ไม่มีเสียงบ่นเรื่องเสียงสนทนาขาดหาย และจากที่ผมลองถามจากคนที่ผมคุยด้วย ทุกคนบอกว่าเสียงสนทนาปกติ และชัดเจนดี
ทั้งนี้ผมเข้าใจว่าหลายๆคนที่เป็นเจ้าของเจ้า Lumia 720 แล้ว อาจจะเจอปัญหาเสียงสนทนาขาดๆหายๆอยู่บ้างซึ่งผมก็คาดว่าจะได้เจอเหมือนกัน ถ้ามันเป็นปัญหากับทุกเครื่องในตลาด แต่จากที่ลองมาผลของผมก็ตามที่บอกไว้ครับ
ซึ่งอาจจะพอสรุปได้ว่า ปัญหาเสียงสนทนาไม่ได้เป็นกับทุกเครื่อง น่าจะต้องดูกันเป็นรายๆไปสำหรับท่านที่เกิดปัญหาครับ
เครื่องดับเอง
นี่ก็เป็นปัญหาที่หลายๆท่านมาแจ้งกับผมใน fan page อยู่บ่อยๆ แต่จากที่ผมใช้เจ้าเครื่องนี้มา 1 อาทิตย์นั้น ผมกลับพบว่าเครื่องที่ผมใช้งานสำหรับการเขียนรีวิวนี้ ยังไม่เคยดับเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ
ผลสรุปก็เลยน่าจะพออนุมานได้ว่า อาการเครื่องดับเอง ก็น่าจะไม่ได้เป็นกับ Lumia 720 ทุกเครื่อง และอาการเครื่องดับนั้นอาจเกิดจากรูปแบบการใช้งานหลายๆอย่างร่วมด้วยครับ
ทั้งนี้ ทางโนเกียได้ให้ข้อมูลกับผมว่า อาการเครื่องดับที่ทางโนเกียได้วิเคราะห์เอาไว้ สาเหตุน่าจะเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น:
มีการลงแอพพลิเคชั่น หรือเก็บข้อมูลในตัวเครื่องจำนวนมาก ทำให้มีหน่วยความจำเหลือน้อย จนกระทบต่อการทำงานของเครื่อง -
การเปิดแอพพลิเคชั่นค้างไว้ หรือใช้งานพร้อมกันหลายแอพ -
อยู่ในพื้นที่ที่มีการครอบคลุมของสัญญาณโทรศัพท์ระบบ 3G ต่ำ ทำให้เครื่องใช้พลังงานมากกว่าปกติเพื่อค้นหาสัญญาณโทรศัพท์ระบบ 3G จนกระทั่งแบตเตอรี่หมด
สำหรับท่านที่เจออาการเครื่องดับลองเอาแนวทางนี้ไปใช้ดูนะครับ ถ้าเครื่องยังดับอยู่ อาจต้องลองเอาเครื่องไปตรวจเช็คที่ Nokia Care ดูอีกทีครับ
คุณสมบัติอื่นๆ
นอกเหนือจากคุณสมบัติที่รีวิวเอาไว้แล้ว เจ้า Nokia Lumia 720 ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆที่ Lumia รุ่นใหญ่อย่าง Lumia 820 และ 920 มี นั่นก็คือ
NFC และระบบ Tap to send
Bluetooth
รองรับการชาร์ตแบบไร้สาย แต่ต้องซื้อฝาหลังเพิ่มต่างหากเหมือนกับ Lumia 820
เจ้าจุด 3 จุดตรงกลางๆค่อนไปทางข้างล่างของเครื่องนี่แหละครับที่เอาไว้เชื่อมต่อกับฝาหลังสำหรับการชาร์ตแบบไร้สาย
GPS และรองรับการใช้งานแอพนำทางอย่าง Here Maps, Here Drive ได้อย่างสมบูรณ์
Wi-Fi Sharing หรือการแชร์อินเตอร์เน็ต สามารถแชร์ให้เครื่องอื่นๆใช้งานอินเตอร์เน็ตร่วมกันได้ถึง 8 เครื่อง
แอพพลิเคชั่น สามารถใช้งานแอพต่างๆที่อยู่ใน Windows phone store ตามปกติ (ยกเว้นแอพที่ต้องการ Ram มากกว่า 512 MB) เพราะฉะนั้นข้อจำกัดเรื่องแอพที่มีในระบบ Windows phone ก็จะมีผลกับเจ้า Lumia 720 ด้วย เช่น แอพ Line ก็ยังซื้อสติ๊กเกอร์ไม่ได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ยังใช้โทรหากันไม่ได้ และอาจยังมีปัญหาการแจ้งเตือนอยู่ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาที่ต้องรอการแก้ไขจาก Microsoft และผู้พัฒนาแอพนั้นๆอีกที ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเครื่อง Lumia 720 ครับ
แอพ Microsoft office ที่ใช้งานเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ ใช้งานได้ปกติดี
สรุป
จุดเด่น
น้ำหนักเบา
-และบางที่สุดใน Lumia ทุกรุ่น
หน้าจอสีสีนสวย มุมมองกว้างมากเกือบๆ 180 องศา
-
งานประกอบเนี๊ยบตามสไตล์โนเกีย
แบตอึดมากกกก
การใช้งานทั่วไปลื่นไหลดี อาจยังไม่ลื่นเท่าบน Lumia รุ่นใหญ่ๆอย่าง 920 และ 820 แต่ว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ
เครื่องไม่ร้อนถ้าเทียบกับ Lumia 920 ในแง่การใช้งานแบบเดียวกัน
ส่วนกล้อง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังทำออกมาได้ดีตามที่โฆษณาเอาไว้
การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ให้ผลที่น่าประทับใจ
ครบเครื่องทั้งการเล่นแอพ วิดีโอ และเกมส์ต่างๆ
จุดด้อย
หน้าจอไม่ละเอียดมากนัก และไม่น่าจะเหมาะสำหรับการอ่าน text เยอะๆนานๆ
หน้าจอไม่ละเอียด ทำให้การเรียกดูรูปผ่านหน้าจอ ไม่คมชัดเท่าภาพที่ได้จริงๆ
-
กล้องถ่ายสภาวะแสงน้อยยังสู้ Lumia 920 ไม่ได้ เพราะไม่มี OIS
หูฟังที่แถมมาคุณภาพไม่ค่อยดี..ไม่มีปุ่มรับสาย
Ram 512 MB และพื้นที่ภายใน 8 GB อาจจะน้อยไปสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมส์หรือลงแอพเยอะๆ แต่ก็ไม่มีปัญหากับคนที่ไม่ได้ใช้งานแอพมากมายนัก
พื้นผิวของเครื่องบริเวณด้านหลัง ถึงแม้จะเป็นพื้นผิวแบบเงา แต่สามารถเกิดรอยเปื้อนได้ง่าย ถ้าใจไม่ถึงแนะนำให้ใส่เคสไว้นะครับ :)
ไม่รองรับ 4G LTE ในอนาคตครับ
จบแล้วสำหรับการรีวิวแบบเต็มรูปแบบของผม เป็นการรีวิวจากมุมมองผู้ใช้งานระบบ Windows Phone มาตลอด ซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อ Windows Phone เครื่องใหม่สักเครื่อง ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ
เบา บาง คุ้มราคาสำหรับคนที่มองหามือถือ Windows Phone 8 ดีๆซักเครื่อง (แต่อาจจะเล็กไปสำหรับผมแฮะ)
ขอบคุณบริษัท UK Communications โดยคุณปุ้ยมาก ที่ส่งเครื่องนี้มาให้ผมทดสอบครับ (ถึงแม้จะช้าไปหน่อย 555 แต่ผมเข้าใจครับ)
ตอนนี้หวังเหลือเกินว่า ผมจะได้มีโอกาสทดสอบและเขียนรีวิวเครื่อง Lumia 925 ที่กำลังจะออกมาเร็วๆนี้ ไวๆนะครับ :)
Comments
Post a Comment