อัพเดทข่าวปัญหาการอัพเดท Amber ผ่าน OTA แล้วเครื่องค้างที่หน้าจอรูปฟันเฟือง สาเหตุของปัญหา, และทางแก้ไขเบื้องต้น


จากปัญหาที่ผู้ใช้งานมือถือ Nokia Lumia 920 หลายๆท่านประสบระหว่างการอัพเดทโทรศัพท์ของตัวเองแล้วเกิดอาการค้างที่หน้าจอรูปฟันเฟือง (Spinning gears) โดยผมได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวใน Microsoft ก็ได้ความมาตามนี้ครับ

คำเตือน
บทความนี้เป็นการอธิบายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข รวมถึงข้อสงสัยต่างๆแบบน้ำๆ อาจยาวหน่อยนะครับ ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการคำแนะนำแบบสั้นๆ คุณ Lo-Axiom เขียนเอาไว้แล้วตามนี้ครับ (Click) หรือจะเลื่อนไปดูส่วนล่างสุดของบทความได้เลยครับ ผมสรุปเอาไว้เป็นคำแนะนำสั้นๆให้แล้วครับ

portico-wp8-_-05



สาเหตุของการเกิดสภาวะค้างที่หน้าจอฟันเฟือง (Spinning gears)

การเกิดสภาวะ Spinning gears นี้จะมีเงื่อนไขหลักๆเลย 1 ข้อคือ
สถานะของแบตเตอร์รี่เหลือต่ำกว่าปริมาณที่ระบบต้องการสำหรับการดำเนินการติดตั้งตัวอัพเดท
(หรือที่เราจะเห็นเป็นหน้าจอรูปฟันเฟืองหมุนไปหมุนมานั่นแหละครับ..และหน้าจอนี้ตอนนี้มีฉายาว่า ผีคุณเฟือง ตามแบบละครที่กำลังฮิตกันครับ เพราะหน้าจอนี้สร้างความหลอนให้กับผู้ที่ประสบมานักต่อนักแล้ว)

โดยเงื่อนไขการทำงานของการอัพเดท ระบบจะมีการกำหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งคือ ระบบจะตรวจสอบสถานะของปริมาณแบตเตอร์รี่ในเครื่องว่า เหลือเพียงพอต่อการดำเนินการต่อไปหรือไม่? ถ้าไม่ระบบก็จะไม่ดำเนินการต่อและจะคงสถานะหน้าจอรูปฟันเฟืองอยู่อย่างนั้นอีกสักพัก

จากนั้นจึงจะเริ่มตรวจสอบเงื่อนไขเดิมคือปริมาณแบตเตอร์รี่ในเครื่องใหม่อีกครั้ง ถ้าปริมาณแบตเตอร์รี่ยังไม่เพียงพอเหมือนเดิม กระบวนการนี้ก็จะวนต่อไป ไม่มีทางสิ้นสุดครับจนกว่าปริมาณแบตเตอร์รี่ในเครื่องของคุณจะมีมากพอและผ่านเงื่อนไขที่กำหนดไว้ (หรือจนกว่าแบตในเครื่องคุณจะหมดและก้าวข้ามไปยังหน้าจอมรณะที่เป็นรูปฟันเฟือง+สายฟ้าต่อไป ซึ่งสถานะนี้หนักกว่าสถานะรูปฟันเฟืองหมุนอีกครับ)

bricked 920_0


แล้วปริมาณแบตเตอร์รี่ที่เพียงพอมันคือเท่าไหร่ล่ะ?

คำถามนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนครับ แต่เท่าที่ผมเคยทดสอบ ควรมีแบตเตอร์รี่ในเครื่องเหลือเกิน 80% ขึ้นไป หรือเต็มได้เลยยิ่งดีก่อนเริ่มกระบวนการอัพเดทครับ

ทำไมถึงต้องมีการตรวจเช็คสถานะแบตเตอร์รี่ในลักษณะนี้?

คำตอบที่ผมได้รับคือ มาตรการการตรวจสอบนี้มีขึ้นเพื่อความปลอดภัยของเครื่องของเราครับ เพราะว่า Microsoft มองว่าถ้าแบตเตอร์รี่ในมือถือของเราเหลือไม่เพียงพอสำหรับใช้ในการติดตั้งตัว Firmware ใหม่ แล้วระบบปล่อยให้มีการติดตั้งต่อไป ในกรณีที่แบตเตอร์รี่ในเครื่องเกิดหมดระหว่างที่ติดตั้ง ผลเสียที่เกิดกับเครื่องอาจจะถึงขั้นBrick แบบถาวรครับ เพราะระบบไม่สามารถติดตั้ง firmware ใหม่ลงไปให้สมบูรณ์ได้นั่นเอง

หรือพูดง่ายๆคือมาตรการนี้มีไว้ป้องกันสภาวะ Brick โดยสมบูรณ์ครับ เพราะอย่างน้อยสภาวะ Spinning gears นั้นก็ยังสามารถแก้ไขได้ ทั้งด้วยตัวเองและด้วยการเข้าศูนย์ Nokia Care ครับ

ทางแก้ไขเบื้องต้นเมื่อเกิดสภาวะ Spinning gears ทำอย่างไร?

เบื้องต้นเลย ก็ต้องเสียบสายชาร์ตทิ้งเอาไว้ครับ แนะนำอย่างนึงว่าควรเป็นสายชาร์ตแท้ๆของ Nokia และตรงกับรุ่นของเราและชาร์ตกับไฟบ้าน ซึ่งจะให้กำลังไฟเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถชาร์ตแบตเตอร์รี่เข้าไปยังมือถือของเราได้ดีกว่าสายชาร์ตของมือถือรุ่นอื่นๆ หรือการชาร์ตกับคอมพิวเตอร์ครับ

จากนั้นรอสักพักให้ไฟเข้าไปที่มือถือของเรา ซึ่งขั้นตอนนี้ก็เพื่อให้กำลังไฟในแบตเตอร์รี่มีสูงกว่าเงื่อนไขที่ระบบต้องการนั่นเอง แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือ ตอนที่เราอยู่ในสถานะ Spinning gears นั้น เราจะไม่สามารถมองเห็นเปอร์เซ็นต์แบตเตอร์รี่ของมือถือเราได้ ตรงนี้ต้องใช้การกะเวลาอย่างเดียวครับ ถ้าเราจำได้ว่าแบตเตอร์รี่ในมือถือเราก่อนการอัพเดทเหลืออยู่เท่าไหร่ ตรงนี้ก็จะช่วยได้พอสมควรคือ ถ้าแบตเตอร์รี่มือถือของเราเหลือน้อย ก็น่าจะต้องชาร์ตไว้นานหน่อย อาจเกิน 30 นาทีขึ้นไปหรือถ้าน้อยมากๆอาจเป็นชั่วโมง

แต่ถ้าแบตเตอร์รี่เหลือพอสมควรก็อาจใช้เวลารอสั้นหน่อยคือ 10-15 นาทีครับ

จากนั้นพอเรารอให้ไฟเข้าไปในแบตเตอร์รี่สักระยะแล้ว ให้เราทำการ Soft reset มือถือของเราโดยการกดปุ่มVolume done + Power (หรือปุ่มเปิดเครื่อง+ลดเสียง) พร้อมกันค้างไว้จนเครื่องสั่นครับ ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นการกระตุ้นให้ระบบเริ่มกระบวนการอัพเดทอีกครั้ง และระบบจะเริ่มการตรวจสอบปริมาณแบตเตอร์รี่ในเครื่องใหม่ ถ้ามีพอแล้ว กระบวนการอัพเดทก็จะดำเนินต่อไป แต่ถ้ายังไม่พอ...ก็จะเริ่มลูปเดิมใหม่อีกครั้งครับ

ข้อสำคัญข้อเดียวในการแก้ไขปัญหานี้เลยคือ

อย่าใจร้อนครับ เพราะบางท่านอาจจะเสียบสายชาร์ตทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วรีบทำการ Soft reset ซึ่งนั่นไม่เพียงแต่จะไม่แก้ปัญหา แต่จะยิ่งทำให้ปัญหาหนักขึ้นครับ เพราะการทำ Soft reset แต่ละครั้ง จะใช้พลังงานพอสมควร (ลองทดสอบกันได้ครับ การทำ soft reset ในสภาวะปกติ 1 ครั้งอาจจะทำให้แบตเตอร์รี่ลดลงไปถึง 5-10% ได้เลยครับ) ซึ่งนั่นจะยิ่งทำให้เราต้องใช้เวลาในการชาร์ตไฟเข้านานขึ้นไปอีก

สรุปสั้นๆสำหรับการแก้ไขปัญหาระบบค้างที่หน้าจอ Spinning gears

  1. เสียบสายชาร์ตทิ้งไว้ก่อน รอสักประมาณ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมงมากน้อยตามปริมาณแบตเตอร์รี่ที่มีในเครื่องของเราก่อนเริ่มกระบวนการอัพเดทครับ
  2. ทำการ Soft reset โดยกดปุ่ม Power+ลดเสียงพร้อมกัน ค้างไว้จนเครื่องสั่น
  3. ระบบจะเริ่มกระบวนการรีเซ็ทตัวเองอีกครั้ง ให้รอสัก 15-30 นาที ไม่เกินนี้ระบบน่าจะกลับมาใช้งานได้ครับ
จากข้อ 3 ถ้ายังใช้งานไม่ได้ ให้เสียบสายชาร์ตทิ้งไว้อีก 15-30 นาทีแล้วทำซ้ำขั้นตอนที่ 2-3 ไปเรื่อยๆซัก 2-3 รอบก็น่าจะทำให้เครื่องติดแล้วครับ

อัพเดท ผมมีวิธีเพิ่มเติมมาแนะนำสำหรับกรณีที่ทำการแก้ไขตามวิธีแรกแล้วยังไม่ไดครับ

วิธีนี้คือวิธีการ hard reset หรือ Factory reset ด้วยการกดปุ่มครับ อย่างไรก็ดีอย่างที่ชื่อมันบอกเอาไว้ วิธีนี้จะทำให้ข้อมูลในเครื่องหายไปทั้งหมด (แต่ว่าถึงเราเอาไปเข้าศูนย์ ข้อมูลในเครื่องก็จะหายไปอยู่ดี ยังไงก็ไม่มีอะไรจะเสีย ลองทำกันดูก็ได้ครับ)

ขั้นตอนการทำมีดังนี้ครับ
  1. ทำการ Soft reset โดยกดปุ่ม Power+ลดเสียงพร้อมกัน ค้างไว้จนเครื่องสั่น
  2. พอเครื่องหายสั่นแล้วให้ปล่อยปุ่มที่กดตามข้อ 1 จากนั้นให้กดปุ่มต่อไปนี้ตามลำดับทันที
    - ปุ่มเพิ่มเสียง (Volume up)
    - ปุ่มลดเสียง (Volume down)
    - ปุ่ม Power
    - ปุ่มลดเสียง (Volume down)
  3. จากนั้นระบบจะเริ่มหน้าจอฟันเฟืองใหม่ แต่คราวนี้ระยะเวลาที่ใช้จะสั้นลงครับ และเครื่องเราจะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
windows phone hard reset button combination

แต่ถ้ายังไม่ได้จริงๆ สุดท้ายก็ต้องเข้าศูนย์แล้วครับ


ชาร์ตแบตไว้ตั้งนานเป็นชั่วโมงแล้ว Soft reset แล้วแต่ก็ยังค้างอยู่?

เหตุการณ์นี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกันครับ เรื่องนี้ยังไม่มีคำอธิบายอย่างชัดเจนว่าเพราะอะไร แต่มีข้อสันนิษฐานคือ ระบบใช้พลังงานแบตเตอร์รี่มากกว่ากำลังไฟที่เราชาร์ตเข้าไป ทำให้ถึงเราเสียบชาร์ตเอาไว้เท่าไหร่ ไฟมันก็เข้าไปไม่ถึงระดับที่ระบบต้องการอยู่ดี ซึ่งสาเหตุในการใช้พลังงานตรงนี้มันมีปัจจัยร่วมเยอะพอสมควรครับ ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน

เอาเป็นว่าถ้ามือถือของเราร้อนขึ้นมากๆในระหว่างที่เครื่องค้างที่หน้าจอ Spinning gears แสดงว่ามีการใช้พลังงานมากและกำลังไฟที่เราชาร์ตเข้าไปอาจไม่พอ ถ้าชาร์ตทิ้งไว้นานมากๆแล้วแต่ก็ยังทำการแก้ไขด้วยการ Soft reset ไม่ได้ กรณีนี้เหลือทางเลือกเดียวคือต้องติตต่อ nokia care เพื่อให้ช่างแก้ไขให้แล้วครับ เพราะที่ Nokia Care จะมีอุปกรณ์ที่เค้าเรียกกันว่าอุปกรณ์ปลุกชีพอยู่ สามารถแก้ไขให้คุณได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมงครับ



แบตเหลือน้อย ขี้เกียจรอแบตเต็ม แค่เสียบสายชาร์ตไว้แล้วอัพเดทเลยไม่ได้เหรอ ยังไงแบตก็ไม่หมดอยู่แล้ว?

คำตอบของคำถามนี้ก็คือ ไม่แนะนำครับ เพราะอย่างที่บอกไปว่าเงื่อนไขของการตรวจสอบการอัพเดทนั้น ปัจจัยหลักๆคือระบบจะตรวจสอบสถานะของแบตเตอร์รี่ว่ามีพอกับที่ระบบต้องการหรือไม่? ไม่ใช่การตรวจสอบว่าเราเสียบสายชาร์ตเอาไว้หรือไม่ครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือเสียบสายชาร์ตไว้ให้แบตเตอร์รี่มีมากพอ ก่อนลงมือทำการอัพเดท

ความจริงอาจจะมีกรณีที่สามารถอัพเดทผ่านได้ถึงแม้แบตเตอร์รี่ในเครื่องเหลือน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะ spinning gears สูงกว่าการอัพเดทตอนที่แบตเตอร์รี่เหลือเยอะกว่าหรือเต็มเครื่องครับ


จำเป็นต้องลบแอพหรือลบไฟล์ต่างๆในเครื่องให้หมดก่อนการอัพเดทหรือไม่?

คำถามนี้ต้องตอบว่า ไม่จำเป็น แต่ทำก็ดีครับ เนื่องจากปริมาณไฟล์ต่างๆที่มีในเครื่องจะสัมพันธ์กับระยะเวลาที่ใช้ในการติดตั้งตัวอัพเดท ถ้าเรามีไฟล์ต่างๆในเครื่องมาก กระบวนการ backup และ restore ไฟล์ต่างๆก็จะใช้เวลามากกว่าที่เรามีไฟล์ในเครื่องน้อย

ระยะเวลาในการ backup และ restore ที่นานขึ้น ก็จะส่งผลให้เครื่องใช้พลังงานแบตเตอร์รี่มากขึ้น และถ้าแบตเตอร์รี่ลดต่ำลงกว่าที่ระบบต้องการ ก็จะทำให้เครื่องของเราเข้าเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดสภาวะ Spinning gears แบบวนลูปต่อไปนั่นเองครับ

แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยมากถ้าเรามีแบตเตอร์รี่ในเครื่องเพียงพอครับ คำแนะนำที่ Microsoft บอกไว้ก็ยังคงเดิมคือ ชาร์ตแบตเตอร์รี่เอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้และเสียบสายชาร์ตเอาไว้ตลอดเวลาที่ทำการการอัพเดทนั่นเองครับ


คนดาวน์โหลดอัพเดทเยอะๆ ส่งผลต่อการที่ไฟล์อัพเดทที่ได้รับไม่สมบูรณ์ เลยทำให้เครื่องบริกหรือค้างที่หน้าจอ Spinning gears หรือไม่?

ข้อนี้คำตอบคือ "ไม่ครับ" จำนวนคนที่ดาวน์โหลดอัพเดทพร้อมๆกันเยอะๆนั้น จะส่งผลต่อความเร็วในการดาวน์โหลดไฟล์สำหรับการติดตั้ง ซึ่งอาจจะทำให้เราดาวน์โหลดไฟล์อัพเดทนานขึ้น แต่ไม่ส่งผลต่อการบริกของเครื่องหรือทำให้เครื่องของเราค้างที่หน้าจอฟันเฟืองหรือ spinning gears ครับ เพราะระบบจะมีการตรวจสอบไฟล์อัพเดทก่อนการติดตั้งอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไฟล์อัพเดทที่เราดาวน์โหลดมาไม่สมบูรณ์นั้น ระบบจะมีข้อความเตือนในลักษณะนี้ขึ้นมา

Update fail

แต่ถ้าไฟล์อัพเดทที่ดาวน์โหลดนั้นสมบูรณ์พร้อมสำหรับการติดตั้ง ระบบจะแสดงข้อความตามนี้ครับ

First OTA update 2


สรุป

การเกิดภาวะ spinning gears นั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง แต่เราก็สามารถป้องกันการเกิดขึ้น รวมถึงสามารถแก้ไขสภาวะนั้นได้ถ้าเราเข้าใจครับ

ถ้าเราจะมองว่ามันเป็นจุดด้อยของระบบ ก็มองได้เหมือนกัน แต่ถ้าจากเหตุผลที่ทาง Microsoft บอกมาและจากที่ผมนั่งรวบรวมข้อมูลมา เหตุผลก็มีน้ำหนักพอสมควรครับ


สรุปสั้นๆ คำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวอัพเดท OTA

ความจริงสิ่งที่เราควรทำก่อนการอัพเดทระบบของมือถือไม่ว่าจะระบบใดๆ คือ

1. ชาร์ตแบตเตอร์รี่ให้มีปริมาณเพียงพอต่อการกระบวนการอัพเดท อย่างน้อยควรมีแบตเตอร์รี่เกิน 80% ขึ้นไปหรือเต็มได้เลยจะยิ่งดี

2. เสียบสายชาร์ตเอาไว้ตลอดเวลาที่ทำการอัพเดท

3. ไม่ควรทำการอัพเดทขณะเครื่องร้อนหรือเพิ่งผ่านการใช้งานหนักๆมาครับ ถ้าเพิ่งใช้งานอะไรหนักๆมา เช่นเล่นเกมส์, ดูวิดีโอหรือเล่นเว็บนานๆและเครื่องยังร้อนอยู่ แนะนำให้พักเครื่องไว้สักครู่ ให้เครื่องเย็นลงแล้วค่อยทำการอัพเดท

4. ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ปิดเครื่องและเปิดใหม่อีกครั้งหนึ่งก่อนเริ่มกระบวนการอัพเดทครับ ตรงนี้เป็นการเคลียร์ process และแอพต่างๆที่อาจทำงานอยู่เบื้องหลังครับ

ส่วนขั้นตอนอื่นๆที่จำเป็น (แต่ส่วนตัวผมไม่เคยทำนะ และยังอยู่รอดดีทุกๆการอัพเดทหรือการทำ Factory reset ที่ผ่านมา) คุณ Lo-Axiom ได้เขียนเอาไว้แล้วตามนี้ครับ

>> http://www.appdisqus.com/2013/08/18/amber-update-problem.html

Comments

Popular posts from this blog

ทำอย่างไร เมื่อเครื่อง Nokia Lumia ของเราเปิดไม่ติด?

Error code in Windows Phone Store? Worth to know....

จุดเด่น จุดแข็ง ของ Windows Phone ที่หลายๆคนมองข้าม People Hub มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด ตอนที่ 1: Link contact