ผู้บริหาร Huawei ระบุไม่มีใครทำกำไรได้จากระบบ Windows phone

---

ก่อนหน้านี้ Huawei เคยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตมือถือที่จับมือเป็นพันธมิตรกับ Microsoft ในการทำมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows phone ป้อนสู่ตลาด แต่ด้วยสาเหตุหลักๆอย่างเรื่องยอดขายที่ไม่ค่อยสวยมากนักจากมือถือ Windows phone 2 รุ่นที่ Huawei วางจำหน่าย (Huawei Ascend W1 และ W2) นั่นทำให้ Huawei ตัดสินใจหยุดการลผิตมือถือ Windows phone เอาไว้ก่อน

[caption id="attachment_69816" align="aligncenter" width="500"] Huawei Ascend W1 หนึ่งในความพยายามของ Huawei[/caption]



ล่าสุดคุณ Joe Kelly ผู้บริหารของ Huawei ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Seattle Times ว่า Huawei เองไม่เคยได้กำไรจากการพัฒนามือถือ Windows phone และก็เชื่อว่าไม่มีผู้ผลิตรายใดได้กำไรจากมือถือระบบนี้เช่นกัน We didn’t make any money in Windows Phone, Nobody made any money in Windows Phone”

[caption id="attachment_69815" align="aligncenter" width="608"] Joe Kelly ผู้บริหารของ Huawei[/caption]



น่าสนใจว่า แน่นอนหากมองจากมุมมองของ Huawei เอง ยอดขายมือถือ 2 รุ่นที่วางจำหน่าย เมื่อเปรียบเทียบกับเงินทุนในการพัฒนา น่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่สวยนัก และเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเมื่อไม่คุ้มทุนก็ไม่ควรทำเดินหน้าต่อ



แต่ในขณะที่ Microsoft เองก็มีพันธมิตรรายอื่นที่ยังพัฒนามือถือในระบบปฏิบัติการนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง Foxconn, MicroMaxx, Karbonn ที่อาจไม่คุ้นหูบ้านเรานัก แต่ก็เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่การประกาศไม่เก็บ license สำหรับการใช้งานระบบ Windows, Windows phone ที่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่า 9 นิ้วลงมา และแม้แต่การออกเครื่องมือช่วยให้ผู้พัฒนามือถือแอนดรอยด์ สามารถใช้การออกแบบมือถือของตัวเองมาประยุกต์ใช้งานระบบ Windows phone 8.1 ได้โดยไม่ต้องออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่ง HTC ที่เป็นผู้เล่นใหญ่ในตลาดแอนดรอยด์เองก็ขานรับแนวทางนี้แล้วด้วย HTC One M8 for Windows

[caption id="attachment_69818" align="aligncenter" width="610"] OEM Partner ของ Microsoft[/caption]



น่าสนใจว่าจะไม่มีผู้ผลิตรายใดนอกจาก Nokia (ที่ Microsoft ซื้อมาแล้ว) เลยหรือที่จะทำเงินจากระบบปฏิบัติการนี้ได้



ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็น่าหนักใจแทน Microsoft ครับว่า จะทำอย่างไรให้เหล่าผู้ผลิตมือถือหันมาสนับสนุนระบปฏิบัติการของตัวเองได้มากกว่านี้ครับ





ที่มา: The Verge, WindowsCentral