เทคนิคง่ายๆสำหรับการประหยัดแบตเตอร์รี่ สำหรับ Windows Phone 8 ของท่าน


ปัญหาเรื่องเครื่องร้อนและแบตหมดเร็ว...เป็นปัญหาคลาสสิคสำหรับมือถือในระบบ Windows Phone 8 มากเลยครับ - -' ซึ่งจนถึงขณะนี้ทั้ง Microsoft และ Nokia ยังแก้ปัญหานี้กันไม่ตกเลย ซึ่งในระหว่างที่เรารอทางแก้ที่เป็นทางการและเป็นรูปธรรมจากทั้ง 2 บริษัท สิ่งที่เราทำได้คือ เราต้องพึ่งพาตัวเองไปก่อนครับ - -'

โดยเทคนิคการประหยัดแบตเหล่านี้ เป็นเทคนิคที่ผมใช้อยู่ และเป็นเทคนิคที่แนะนำกันค่อนข้างแพร่หลายอยู่แล้ว เลยขอรวบรวมเอาไว้ในบทความนี้อีกครั้งครับ

เทคนิคการประหยัดแบตเตอร์รี่ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ตามนี้ครับ


ปิดการเชื่อมต่อที่ไม่ได้ใช้ แล้วค่อยเปิดเมื่อใช้งาน
เทคนิคนี้เป็นเทคนิคพื้นฐานที่ควรทำครับ เพราะจะช่วยลดการใช้งานแบตเตอร์รี่โดยไม่จำเป็นได้พอสมควรเลย การเชื่อมต่อต่างๆก็มีตามนี้ครับ
- ปิด WiFi ถ้าไม่ได้ใช้ โดยไปที่เมนู การตั้งค่า --> Wi-Fi แล้วก็เลือกปิดเครือข่าย Wi-Fi ซะครับ
- ปิดการตั้งค่า "ขั้นสูง" ต่างๆของการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ไม่ได้ใช้ เช่น คุณสมบัติ "แจ้งฉันเมื่อพบเครือข่ายใหม่" หรือ "ส่งข้อมูลการเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อช่วยในการค้นพบ Wi-Fi ที่ใกล้เคียง" ซึ่งคุณสมบัติพวกนี้จะทำให้เครื่องพยายามเชื่อมต่อ Wi-Fi ตลอดเวลาครับ ให้เราค้นหาเครื่อข่าย Wi-Fi เองเวลาที่ต้องการใช้งานจะดีกว่า
- ปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ ถ้าไม่ได้ใช้งาน โดยไปที่เมนู การตั้งค่า-->เครือข่ายโทรศัพท์ --> การเชื่อมต่อข้อมูล ให้เลือกเป็นปิดซะครับ
- ใช้งานการเชื่อมต่อแบบ 2G แทน 3G หรือ 4G โดยไปที่เมนู การตั้งค่า --> เครือข่ายโทรศัพท์ --> ความเร็วการเชื่อมต่อสูงสุด เพราะสัญญาณ 3G บ้านเราไม่ค่อยนิ่ง ระบบ WP8 จะพึ่งพาการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตมากกว่าระบบอื่นๆ ยิ่งสัญญาณไม่นิ่ง ยิ่งกินแบตครับ (ต้องรอ 3G บนคลื่น 2100 ที่กำลังทำกัน น่าจะดีขึ้น) และการใช้พลังงานแบตของ 3G แต่ละค่ายจะไม่เท่ากันนะครับ ขึ้นกับความเสถียรของสัญญาณแต่ละค่ายด้วย (แต่ว่าการใช้การเชื่อมต่อแบบ 2G มันจะค่อนข้างช้า และจำทำให้การเล่นแอพต่างๆบน Windows phone ใช้งานได้ไม่เต็มที่นะครับ)

ปิดการเชื่อมต่ออื่นๆที่ไม่ได้ใช้งาน

- ปิด location service หรือ GPS ถ้าไมได้ใช้งาน โดยไปที่เมนู การตั้งค่า --> ตำแหน่ง --> บริการค้นหาตำแหน่ง จากนั้นก็เลือกปิดซะครับ
- ปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth ถ้าไม่ได้ใช้ โดยไปที่เมนู การตั้งค่า -->บลูทูธ แล้วเลือกเปลี่ยนสถานะเป็นปิดซะครับ
- ปิดฟังก์ชั่น "แตะ-ส่ง" หรือ NFC เมื่อไม่ได้ใช้งาน

ปิดการเชื่อมต่อ Cloud service ต่างๆถ้าไม่ได้ใช้งาน

การเชื่อมต่อกับ cloud service พวกนี้ หลายๆท่านก็ไม่ได้ใช้ เพราะฉะนั้นปิดเอาไว้ก็จะช่วยยืดอายุของแบตได้ครับ

- ในเมนู การตั้งค่า --> แอพพลิเคชั่น --> เกม ให้ปิดการเชื่อมต่อ XBOX เอาไว้ถ้าเราไม่ได้ใช้งานครับ
- ในเมนู การตั้งค่า --> แอพพลิเคชั่น --> เพลง+วิดีโอ ให้ปิดการเชื่อมต่อกับ XBOX Music ถ้าเราไม่ได้ใช้ครับ

ปิดการสำรองข้อมูลแบบออโต้

การสำรองข้อมูลก็สำคัญครับ แต่การตั้งค่าการสำรองข้อมูลแบบออโต้จะทำให้เครื่องใช้พลังงานตลอดเวลา แนะนำให้ทำการสำรองข้อมูลด้วยตัวเองเป็นประจำแทน
- ในเมนู การตั้งค่า --> สำรองข้อมูล แล้วปิดค่าต่างๆในเมนูนี้ครับ

ปรับการตั้งค่าอื่นๆ

การปรับตั้งค่าเหล่านี้ก็ช่วยเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอร์รี่ได้เช่นกันครับ

- การปรับความสว่างของหน้าจอ แนะนำให้ปรับการตั้งค่าแบบออโต้ โดยไปที่เมนู การตั้งค่า --> ความสว่าง แล้วปิดตัวเลือก "ปรับอัตโนมัติ" ซะ แล้วลองปรับเป็นความสว่างที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา แทนที่จะตั้งเป็นออโต้ครับ
- ปิดคุณสมบัติ Super Sensitive Touch เพราะทั่วไปเราคงไม่ได้ใช้ถุงมือในการทัชเครื่องของเราหรอกนะครับ โดยไปที่เมนู การตั้งค่า --> การแสดงผล+สัมผัส แล้วเลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายเพื่อเข้าสู่ส่วน "สัมผัส" แล้วปรับค่า "ความไวต่อการสัมผัสสูง" ให้เป็น "ปกติ" ครับ
- ปรับการแสดงผลในเมนู "ชุดรูปแบบ" หรือ Theme ให้ "พื้นหลัง" เป็นสีมืดหรือดำ แทนการปรับพื้นหลังเป็นสีขาวครับ
- ลดระยะเวลาการให้ระบบล็อกหน้าจอ โดยไปที่เมนู การตั้งค่า-->หน้าจอเมื่อล็อก จากนั้นเลื่อนลงไปจนเจอส่วน "ปิดหน้าจอหลังจาก" แล้วตั้งเวลาให้น้อยที่สุดที่เรารับได้ครับ

การปิดการทำงานของ "งานที่ทำอยู่เบื้องหลัง" หรือ Background service

ส่วนนี้น่าจะเป็นจุดหลักอีกจุดหนึ่งที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่คือเรื่องของงานที่ทำอยู่เบื้องหลัง โดยไปที่เมนู การตั้งค่า --> ปัดหน้าจอไปทางซ้าย เข้าสู่ส่วนแอพพลิเคชั่น จากนั้นไปที่ส่วน "งานที่ทำอยู่เบื้องหลัง" แล้วจะเจอหน้าจอดังรูปครับ

จำนวนแอพในหน้าจอนี้ ขึ้นกับแอพที่เราลงไว้ในเครื่องของเราครับ
พอเข้ามาจะเจอแอพอยู๋มากมาย โดยจุดสังเกตคือ แอพตัวที่ยังทำงานอยู่เบื้องหลังในระบบจะมีข้อความสีแดงว่า "ได้รับอนุญาต" อยู่ด้านล่างครับ ซึ่งถ้าเรามีแอพที่อนุญาตให้ทำงานเบื้องหลังเยอะๆ เครื่องของเราก็จะทำงานอยู่ตลอดเวลา และแบตก็จะหมดเร็ว ครับ ให้เราลองเลือกดูว่าแอพตัวไหนบ้างที่จะเป็น ที่เราต้องการให้มันทำงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะส่งผลต่อการแจ้งเตือนของแอพต่างๆ

โดยการปิดการทำงานเบื้องหลัง สามารถทำได้โดย แตะที่ชื่อแอพที่ต้องการแล้วจะเจอหน้าจอดังรูป


จากนั้นก็เลือกที่คำสั่ง "บล็อก" เพื่อปิดการทำงานของแอพนั้น

แต่ถ้าเราบล็อกแอพไปแล้ว ต้องการยกเลิกการบล็อก ก็สามารถทำได้โดยแตะที่ชื่อแอพที่ต้องการยกเลิก จากนั้นจะเจอหน้าจอดังรูปครับ


จากนั้นให้ทำเครื่องหมายที่หน้าคำว่า "เปิดงานที่อยู่เบื้องหละงสำหรับแอพนี้อีกครั้งในครั้งถัดไปที่ฉันเปิดใช้งานแอพ" โดยการตั้งค่านี้จะมีผลต่อเมื่อเราเปิดใช้งานแอพนั้นอีกครั้งนึงครับหลังจากเราเปลี่ยนการตั้งค่าในเมนูนี้ครับ

การตั้งค่าการ Sync อีเมล์

และสุดท้ายจริงๆ เป็นเรื่องของเมล์ครับ ผมอ่านเจอมาว่าการเลือก sync เมล์ถ้าเรากำหนดไว้ให้เครื่อง Sync บ่อยๆ จะเปลืองแบตกว่าการเซ็ตให้เช็คเมล์แบบ Manual แต่หลายๆแหล่งก็บอกว่าถ้าเราสามารถตั้งค่าให้รับเมล์แบบ Push mail หรือแบบ "ทันทีที่ข้อมูลมาถึง"ได้ จะประหยัดแบตที่สุด อันนี้ต้องลองดูเองครับ อาจจะต่างกันในแต่ละคน (ตัวผมผมเซ็ตไว้เป็น Push mail หรือแบบ "ทันทีที่ข้อมูลมาถึง" หมดเลย มี 5 account ก็ไม่เปลืองแบตนะครับ)

ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆสำหรับการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่ของท่านนะครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับผม


Comments

  1. ช่วยอะไรได้เยอะเลยคับ ขอบคุณคับ

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular posts from this blog

จุดเด่น จุดแข็ง ของ Windows Phone ที่หลายๆคนมองข้าม People Hub มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด ตอนที่ 1: Link contact

ทำอย่างไร เมื่อเครื่อง Nokia Lumia ของเราเปิดไม่ติด?

รายละเอียดคุณสมบัติใหม่ใน Windows 10 สำหรับมือถือ Build ล่าสุด 10551 และข้อควรระวังก่อนอัพ