มาตามนัด Windows 10 Mobile Build 10136 ปล่อยให้ชาว Windows Insider อัพเดทแล้ว

---

ตามสัญญาครับ วันนี้ Microsoft ปล่อยอัพเดท Windows 10 Mobile Build 10136 ออกมาแล้ว ซึ่งใน Build นี้มีเลขเวอร์ชั่นที่ก้าวกระโดดจาก Build ก่อนหน้า (10080) ไปพอสมควร และ Microsoft สัญญาว่า Build นี้ จะเยี่ยมกว่า build ที่ผ่านๆมาแน่นอน จะเป็นตามนั้นหรือไม่? ต้องรอทดสอบกันต่อไป

อย่างไรก็ดี Microsoft ได้เปิดเผย Change log ของ Build นี้ออกมาแล้ว เพราะฉะนั้น จะมีอะไรใหม่ๆให้เราได้ใช้งานกันบ้าง มาดูกันครับ

ก่อนการอัพเดท

ตามที่ประกาศเอาไว้เมื่อเช้า Microsoft แจ้งว่าผู้ที่ใช้งาน Windows 10 Mobile Build 10080 อยู่ จะไม่สามารถอัพเดทเป็น Build 10136 นี้ได้ เพราะมีบั๊คที่ Microsoft ยังไม่สามารถแก้ไขได้

ดังนั้น ผู้ที่ต้องการทดสอบ Build นี้ ต้อง roll back หรือแฟลชรอมกลับไปใช้งาน Windows phone 8.1 update เท่านั้น ถึงจะสามารถอัพเดท Build นี้ได้ในตอนนี้

แต่ถ้าใครที่ไม่อยากแฟลชรอม คุณก็สามารถใช้งาน Build 10080 ได้ต่อไป และรอการปล่อย build ถัดไปจาก Microsoft ออกมาแทนครับ

ฟีเจอร์ใหม่

ใน Build 10136 นี้ Microsoft เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆให้เราได้ใช้งานกัน ดังนี้

การเปลี่ยนแปลงด้าน UI ครั้งใหญ่

จาก Build ที่ผ่านๆมา เราจะเห็นได้ว่าหน้าจอการใช้งาน (UI) ของ Windows 10 Mobile ยังมีหลายๆส่วนที่ไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับ build นี้ หน้าจอการใช้งานได้รับการปรับปรุงขึ้นมาก เริ่มตั้งแต่ฟอนท์ ไอค่อน หรือการจัดวางตำแหน่งต่างๆบนหน้าจอที่มีความใกล้เคียงกับ Windows 10 บนพีซีมากขึ้น

Cortana ยกเครื่องใหม่เพิ่มความสามารถ

Microsoft ปรับความสามารถของ Cortana เพิ่มเข้ามาใน build นี้ด้วย ซึ่งความสามารถจะใกล้เคียงกับระบบผู้ช่วยส่วนตัวของระบบปฏิบัติการอื่นๆมากขึ้น เช่น Cortana สามารถรับรู้เนื้อความในอีเมลของเราได้ ในกรณีที่อีเมลนั้นมีรายละเอียดเที่ยวบิน หรือรายละเอียดการส่งพัสดุถึงเรา Cortana จะสามารถแจ้งเตือนเราได้ รวมถึงปรับปรุงเรื่องการโต้ตอบกับคำถามในเรื่องต่างๆที่เราถามไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศ, อัตราแลกเปลี่ยน, ราคาหุ้น เป็นต้น

แอพถ่ายภาพและตัวจัดการภาพถ่ายใหม่

• เพิ่มมุมมองการแสดงภาพถ่ายตามช่วงเวลา และสามารถสลับการแสดงผลภาพถ่ายในมุมมองต่างๆได้อย่างง่ายดาย
• เพิ่มความสามารถแตะ 2 ครั้งเพื่อซูมภาพ
• ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของแอพภาพถ่ายใหม่
• สำหรับแอพถ่ายภาพ (Camera) ผู้ใช้ Microsoft Lumia 640, 640XL, Nokia Lumia 930 และ 1520 จะได้รับแอพ Lumia Camera Beta เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งเป็นแอพตัวเดียวกับที่ Microsoft จะใช้เป็นแอพถ่ายภาพมาตรฐานบน Windows 10 Mobile แต่จะมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับมือถือตระกูล Lumia เท่านั้นเพิ่มเข้ามาให้

คุณสมบัติการใช้งานมือเดียว (One-handed use)

สำหรับมือถือหน้าจอใหญ่กว่า 5 นิ้วขึ้นไปจะสามารถเรียกใช้งานคุณสมบัตินี้ได้ ด้วยการแตะที่ปุ่ม home ค้างไว้ และระบบจะปรับขนาดหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานมือเดียวให้

และสามารถยกเลิกได้ด้วยการแตะที่พื้นที่ว่างสีดำบนหน้าจอ หรือแตะปุ่ม home ค้างไว้

การแก้ไขบั๊ค

Windows 10 Mobile Build 10136 มีการแก้ไขบั๊คที่พบใน build 10080 ดังนี้

• แก้ไขบั๊คข้อความ mms ไม่สามารถใช้งานได้
• แก้ไขบั๊คหน้าจอสัมผัสไม่ตอบสนองในบางครั้ง
• แก้ไขบั๊คการแสดงผลเมนู action center ตอนเลื่อนดูการแจ้งเตือนต่างๆ
• ปรับปรุงการเปิด-ปิด WiFi ในส่วน action center แล้ว โดยเมื่อเราแตะที่ไอค่อน WiFi จะเป็นการปิดหรือเปิด WiFi (แทนที่จะเป็นการพาไปยังหน้าจอการตั้งค่ WiFi แบบที่ผ่านๆมา)
• แก้ไขการแสดงผลภาพพื้นหลังในหน้า home แล้ว
• ปรับปรุงการแสดงผลข้อความต่างๆในหน้าจอล๊อกสกรีน
• แก้ไขการแสดงผลเคอร์เซอร์ของเมาส์และคีย์บอร์ด ถึงแม้เราจะไม่ได้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านั้นก็ตาม

ปัญหาที่พบใน Windows 10 Mobile 10136

• หลังอัพเดท เราจะเจอปัญหาเรื่องการแสดงผลชื่อแอพ phone และ search ซ้ำกันในหน้าจอ All apps
• สำหรับผู้ใช้รหัส PIN ในการล็อกหน้าจอ จะพบปัญหาระบบไม่แสดงคีย์บอร์ดให้ตอนที่จะป้อนรหัส ทางแก้ชั่วคราวคือแตะที่ปุ่ม Emergency call จากนั้นแตะเพื่อย้อนกลับไปยังหน้าจอป้อนรหัส และเราจะสามารถป้อนรหัสปลดล๊อกได้ตามปกติ
• Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้งานมือถือ Lumia ปิดการใช้งานคุณสมบัติแตะ 2 ครั้งเพื่อปลดล๊อกหน้าจอไปก่อน
• สำหรับผู้ใช้งานแอพ Skype อาจพบปัญหาไม่สามารถใช้งานแอพได้หลังการอัพเดท ทางแก้ไขเบื้องต้นคือลบและติดตั้งแอพใหม่
• บางกรณี ผู้ใช้งานจะไม่สามารถดาวน์โหลดภาษาเพิ่มเติมสำหรับติดตั้งในเครื่องได้ ซึ่งแนวทางแก้ไขสามารถดูได้จากที่นี่

นี่คือทั้งหมดที่เราสามารถคาดหวังได้จาก Windows 10 Mobile Build 10136 นี้ครับ

ส่วนกำหนดการปล่อยเวอร์ชั่นเต็มอย่างเป็นทางการนั้น Microsoft ยังคงยืนยันกว้างๆว่าอยู่ที่ช่วงปลายปีนี้เช่นเดิม แต่ก็มีแย้มออกมาว่า การพัฒนากำลังคืบหน้าไปได้ด้วยดี



ไม่แน่ว่า เราอาจจะได้ใช้งานกันช่วงเดือนกันยายนนี้ ตามข่าวลือก็เป็นได้ครับ





ที่มา: Microsoft