อยากซื้อแอพบน Windows Phone Store ต้องทำอย่างไร?
Entry นี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับท่านที่ใช้ Windows Phone Device กันนะครับ
Windows Phone Store ก็เหมือนกับ Store ของระบบปฏิบัตการอื่นๆ (เช่น AppStore ของ iOS และ PlayStore ของ Android device) ที่จะช่วยให้เรา
- โหลด application ใหม่ๆมาติดตั้งในตัวเครื่องได้
- โหลดเกมส์ใหม่ๆมาเล่นได้
- โหลดเพลงใหม่ๆมาฟังได้ (ฟังก์ชั่นนี้ไม่มีให้ใช้สำหรับ WP Store ของประเทศไทยนะครับ)
เรื่องการโหลดแอพหรือเกมส์ฟรี ไม่น่าจะมีปัญหา แค่เรามี Microsoft Account ที่ใช้ตอนเปิดใช้งาน (Activate) เครื่อง เราก็สามารถเข้าไปโหลดแอพและเกมส์ฟรีๆได้แล้ว
แต่สำหรับแอพหรือเกมส์ที่ต้องซื้อล่ะ? จะทำยังไง?
ไม่ยากครับ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดูครับ
สิ่งที่ต้องเตรียม...
1. เครื่อง Windows Phone 8 (แหงล่ะ) จะของยี่ห้อไหน รุ่นไหน ก็ใช้ได้เหมือนกันหมดครับ(ผมจำของ Windows Phone 7.5 ไม่ได้จริงๆครับว่ามี Wallet หรือเปล่าขออภัยไว้ ณ.ที่นี้)
2. บัตรเครดิต, บัตรเดบิต, บัตร Web Shopping หรือ PayPal account
** บัตรเหล่านี้ต้องเปิดใช้งานการซื้อของออนไลน์ก่อนนะครับ บัตรเครดิตก็ต้องติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรดู ส่วนบัตรเดบิตเองก็ใช้ซื้อได้ ทั้งนี้ก็ต้องติดต่อกับธนาคารเจ้าของบัตรดูเช่นกันครับ
ส่วนบัตร Web Shopping ก็สามารถใช้ของธนาคารเหล่านี้ซื้อได้ครับ
- ธนาคารกรุงเทพ (รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ครับ)
- ธนาคารกสิกรไทย (รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ครับ) --> ผมใช้ของที่นี่อยู่ สะดวกดีครับ
** สำหรับคนที่ใช้งาน WP Store ของ Region ต่างประเทศหรืออเมริกา (คือตั้งค่า region เป็นประเทศอื่นที่ไม่ใช่ของประเทศไทย ต้องกำหนดค่า Billing address ให้ตรงกับที่อยู่ที่มีจริงในประเทศนั้นๆด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นจะเพิ่มบัตรไม่ได้นะครับ) **
เริ่มการเพิ่มบัตรสำหรับซื้อของ
1. เข้าไปที่เมนู "Wallet" หรือกระเป๋าสตางค์ครับ2. เมื่อเปิดมาครั้งแรก ท่านจะเจอหน้าจอแบบในรูปครับ จากนั้นกดที่เครื่องหมาย "+" เพื่อไปยังหน้าจอการเพิ่มบัตรใหม่เข้า Wallet ของเรา
3. หน้าจอการเพิ่มบัตร จะมีออพชั่นให้เลือกตามนี้ครับ เลือกตามที่ต้องการเลยครับ (ถ้าเลือกเป็น PayPal จะง่ายหน่อย ขั้นต่อไปตัวระบบจะให้ Login ด้วย PayPal account ของคุณ เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ แต่ถ้าจะเพิ่มบัตรเครดิต, เดบิต, Web Shopping card ให้เลือกที่ตัวเลือกแรกครับ)
ส่วน other จะเป็นการเพิ่มบัตรพวก บัตรสมาชิกต่างๆ หรือคูปองส่วนลดต่างๆที่ร่วมการจ่ายเงินกับทาง Microsoft ครับ (แต่บ้านเรายังไม่มีนะครับ)
4. พอเลือกแล้ว หน้าจอจะมีตัวเลือกให้เรากดยินยอมว่าการเพิ่มบัตรนี้ใช้สำหรับการซื้อแอพต่างๆและเพลง (ซึ่งของไทยไม่มีให้ซื้อนะครับ) ก็ให้กด Next ได้เลยครับ
5. เราจะมาอยู่ที่หน้าเพิ่มบัตรครับ โดยให้เราระบุหมายเลขบัตร, วันหมดอายุ, ชื่อเจ้าของบัตรและรหัส CCV ซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นบัตรเครดิต, บัตร Web Shopping จะมีมาให้ แต่ถ้าเป็นบัตรเดบิตบางเจ้าจะมี CCV ให้ แต่บางเจ้าไม่มี ลองถามทางธนาาคารดูอีกทีนะครับ
พอเสร็จจากการระบุข้อมูลบัตร ก็จะเป็นข้อมูลที่อยู่ สำหรับ Store ไทยก็ใส่ที่อยู่จริงไปก็ได้ครับ (หรือจะปลอมก็ได้ แต่รหัสไปรษณีย์ต้องเป็นของจริงครับ) ส่วน Store ของประเทศอื่น Billing address ต้องตรงกับที่อยู่ที่มีอยู่จริงในประเทศนั้นๆนะครับ จากนั้นกด Next ได้เลยครับ
6. หน้าจอนี้ไม่มีอะไรกับบ้านเราครับ กด Next ไปได้เลย
แต่ในอนาคตถ้ามีสถาบันการเงิน หรือหน่วยงานต่างๆทำแอพสำหรับการจ่ายเงินผ่าน Wallet ขึ้นมา ก็จะมีแอพนั้นปรากฏในหน้านี้ และเราสามารถเชื่อมต่อ Wallet ของเราเข้ากับแอพนั้นๆ เพื่อชำระเงินหรือบริการต่างๆได้ครับ (ไม่รู้อีกนานมั้ยน้อ)
7. เสร็จแล้วครับ ระบบจะพาเรามายังหน้าจอนี้อีกทีและจะมีข้อมูลบัตรของเราขึ้นมาให้ดู และจะมีข้อความบอกว่า บัตรเราสามารถใช้ซื้อแอพได้แล้วครับ (K-Web Shopping card จะเป็นบัตร VISA นะครับ)
เสร็จสิ้นขั้นตอนการเพิ่มบัตรเพื่อซื้อของแล้วครับ ขั้นตอนการเพิ่มบัตรไม่ยุ่งยากครับ จะยุ่งที่สุดตรงการหาบัตรนี่แหละครับสำหรับคนที่ไม่มีบัตรเครดิต
ส่วนตัวผมชอบใช้บัตร Web shopping ในการซื้อของพวกนี้ เพราะเราสามารถกำหนดวงเงินในบัตรได้ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีการซื้อแอพเกินกว่าที่เราตั้งเพดานไว้ครับ (ผมกำหนดเอาไว้ที่ 500 บาทเอง ^^ หมดค่อยเติมต่อ)
มีข้อสังเกตนิดนึงนะครับ สำหรับการเพิ่มบัตรครั้งแรก ทางระบบจะมีการทดลองหักเงินก่อนเป็นจำนวนประมาณ 30-50 บาท หรือบางคนอาจไม่โดนหัก (ส่วนตัวผม ผมไม่โดนหักนะครับ แต่หลายๆท่านโดน) ซึ่งเงินที่ถูกหักไปนั้นจะได้รับคืนภายหลังครับ ไม่ต้องตกใจไป.
Updated: เรื่องการเปลี่ยน Region จาก Store ของไทย ไปซื้อของที่ Store อเมริกาครับ
มีบางท่านถามเข้ามาว่า เราจะสามารถเอาบัตรที่เพิ่มใน Wallet ของเราใน Store ไทย ไปใช้ซื้อของใน Store อเมริกาได้หรือไม่? คำตอบคือได้ แต่ต้องแก้ข้อมูลนิดหน่อยครับที่ผมทำคือพอเปลี่ยน Region แล้ว เครื่องจะรีสตาร์ทตัวเองรอบนึง ทีนี้พอเปิดเครื่องมา ลองเข้าไปเช็คที่ Wallet ดูจะเห็นข้อความว่าบัตรเราใช้ไม่ได้ ต้องแก้ไขข้อมูล (Attention required) ประมาณนี้
เราก็แค่กด Ok เพื่อแก้ไข ใส่เลขบัตรเดิมที่เรามีนี่แหละครับ
แต่ที่อยู่เปลี่ยนเป็น default ที่เครื่องใส่มาให้ก็ได้ (ผมแก้แค่เบอร์โทรเป็น 123-4567890 แล้ว save)
เท่านี้ก็ซื้อของด้วยบัตรเดิมใน Store US ได้แล้วครับ ^^
ทริคเล็กๆน้อยๆ กันคนมาซื้อของใน Store ให้เราโดยไม่ต้องการ
ใช้สำหรับกันบุตรหลาน หรือเพื่อนจอมซนของเราที่อาจมากดซื้อแอพหรือเกมส์ผ่านบัตรของเราครับ เพราะในการซื้อของของ Windows Phone นั้น จะไม่มีการถามรหัสผ่านก่อนการซื้อแอพเหมือน iOS นะครับ คือถ้ามีบัตรอยู่ จะมีการถามยืนยันและเลือกบัตรที่มีการผูกไว้ แล้วก็ซื้อได้เลย ไม่ต้องกรอกรหัสถ้าอย่างนั้น จะกันอย่างไร?
ทางออกคือการใช้ระบบที่เรียกว่า Wallet PIN ครับ โดยการตั้งค่า Wallet PIN ก็ง่ายๆครับคือ
1. ไปที่เมนู Settings (ตั้งค่า) --> เลื่อนหน้าจอไปทางขวาเพื่อไปยังส่วน Application --> เลื่อนลงมาที่เมนู Wallet หรือกระเป๋าสตางค์ครับ ในหน้า Wallet ก็ให้เปิดใช้งาน Wallet PIN ครับ
2. โดยระบบจะให้เรากำหนดรหัส 4 หลักสำหรับป้องกันหน้าจอ Wallet เอาไว้
3. พอกำหนด Wallet PIN แล้ว ก็ให้ทำเครื่องหมายถูกตรงคำว่า "Use Wallet PIN to protect music, app and in-app purchase" ครับ ทีนี้ทุกครั้งที่จะมีการโหลดแอพหรือเกมส์ที่เสียเงิน เราจะต้องกรอกรหัส Wallet PIN ทุกครั้ง (รวมถึงกันคนเข้าไปดูข้อมูล Wallet ของเราได้ด้วยครับ)
ปราการสำคัญของกระเป๋าสตางค์เราครับ |
ไม่มีบัตรเครดิตอ่ะครับ มีแต่เดบิต ทำไงอ่าครับ
ReplyDeleteเมื่อวานลองเพิ่มบัตรเครดิต
ReplyDeleteทั้งแบบทาง wallet ไม่โดนหักซักบาท
กับแบบเพิ่มใน nokia account แบบหลังโดนหักเต็มๆ 51 บาทกว่าๆ เซ็งจริด
ผมไม่เคยตั้งหรัส พินเลยง่ะ แต่มันถามรหัสพิน งง ไม่เคยตั้งเลย
ReplyDelete