Microsoft เปิดตัว Windows Hello ระบบยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพบน Windows 10


นอกจากการประกาศเรื่องวันวางจำหน่าย Windows 10 และความร่วมมือกับค่ายมือถือเพิ่มอีก 2 ค่ายแล้ว วันนี้ Microsoft ยังประกาศเปิดตัวอีก 1 คุณสมบัติใหม่ที่จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 อย่าง Windows Hello ครับ

Windows Hello เป็นระบบการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ (Bio-metric authentication) ซึ่งระบบการยืนยันตัวตนที่ว่านี้ รองรับอยู่ 3 รูปแบบได้แก่ ลายนิ้วมือ, ม่านตา และใบหน้า ซึ่ง Microsoft อ้างว่าปลอดภัยกว่าการใช้พาสเวิร์ดแบบเดิมๆมาก

W10_Laptop_Windows Hello

แน่นอนว่าการยืนยันตัวตนนี้ จำเป็นต้องทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ ที่ Microsoft ระบุว่าตอนนี้เริ่มมีผู้ผลิตอุปกรณ์หลายๆรายเริ่มทดสอบสำหรับ Windows 10 แล้ว

สำหรับการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือนั้น Windows Hello สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่อยู่ในท้องตลาดเดิมได้ทันที (เช่นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับเครื่องอ่านลายนิ้วมืออยู่แล้ว) แต่สำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าและม่านตานั้น จำเป็นต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับที่จะออกตามมาในอนาคต

สำหรับอุปกรณ์ในปัจจุบันนั้น จะมีอุปกรณ์จากไม่กี่เจ้าที่ Microsoft รับรองแล้ว (เช่น Intel® RealSense™ 3D Camera (F200)

โดยสาเหตุที่การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าและม่านตาสามารถทำงานได้กับอุปกรณ์บางรุ่นนั้น สาเหตุเพราะ Microsoft ใช้เทคโนโลยีอินฟาเรดร่วมกับการแสกนใบหน้าหรือม่านตาด้วย เพื่อตรวจสอบว่าวัตถุที่กำลังตรวจสอบนั้น เป็นคนจริงๆไม่ใช่ภาพถ่าย



ระบบ Windows Hello นั้น จะสามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่ใช้งานระบบ Windows 10 (และฮาร์ดแวร์รองรับ) ได้ นั่นทำให้อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟนเองก็จะรองรับเทคโนโลยีนี้เช่นกัน

มาดูวิดีโอแนะนำ Windows Hello กันครับ





นอกจาก Windows Hello แล้ว Microsoft ยังเปิดตัวระบบ "Passport" ที่เป็นตัวกลางสำหรับการเก็บรหัสผ่านของเราและจะทำงานร่วมกับระบบ PIN หรือ Windows Hello ที่เราต้องยืนยันตัวตนกับอุปกรณ์ต่างๆตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ เมื่อการยืนยันตัวตนกับอุปกรณ์ผ่านแล้ว หลังจากนั้น “Passport” จะเป็นตัวกลางในการติดต่อกับเว็บไซต์หรือบริการอื่นๆรวมถึงแอพพลิเคชั่นที่เราใช้งานผ่านอุปกรณ์ (ที่ยืนยันตัวแล้วของเรา) เอง โดยที่เราไม่ต้องกรอกพาสเวิร์ดอีกต่อไป

ด้วยเทคโนโลยีนี้ Microsoft อ้างว่า เราจะไม่ต้องจำพาสเวิร์ดมากมายอีกต่อไป และพาสเวิร์ดของเราจะไม่ถูกเก็บบนบริการหรือเว็บไซต์ใด ซึ่งเสี่ยงต่อการแฮคและถูกขโมยพาสเวิร์ดด้วย (เพราะพาสเวิร์ดจะไม่ถูกเก็บบนเว็บไซต์เหล่านั้นอีก)





นับเป็นอีกก้าวที่ Microsoft พยายามสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยในองค์กร ซึ่งหากแนวทางนี้หน่วยงานใหญ่ๆเอาด้วย ตลาดของ Windows 10 น่าจะสดใสพอสมควร (อย่างน้อยก็ในระดับองค์กรครับ)







ที่มา: Windows Blog ผ่าน Neowin

Comments

Popular posts from this blog

ทำอย่างไร เมื่อเครื่อง Nokia Lumia ของเราเปิดไม่ติด?

Error code in Windows Phone Store? Worth to know....

จุดเด่น จุดแข็ง ของ Windows Phone ที่หลายๆคนมองข้าม People Hub มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด ตอนที่ 1: Link contact