รีวิว Microsoft Lumia 640 XL ดีเกินคาด

หลังจากที่ Microsoft เริ่มเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ของตัวเองทำตลาดมือถือตระกูล Lumia เริ่มตั้งแต่ Microsoft Lumia 535 ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ ต้องบอกตรงๆว่าสำหรับผมแล้ว ยังไม่มีมือถือรุ่นใดของ Microsoft ที่เข้าตาจริงๆซักรุ่น จนมาเจอเจ้า Lumia 640 XL นี้แหละครับที่ผมว่า Microsoft เริ่มเข้าที่ และทำให้ผมคาดหวังกับมือถือรุ่นกลางถึงเรือธงจาก Microsoft มากขึ้นกว่าเดิม มาดูเหตุผลในรีวิวนี้กันว่าทำไม

จริงๆ มือถือในซีรียส์ 640 จะมี 2 รุ่น คือ Microsoft Lumia 640 และ Lumia 640 XL ที่เรากำลังจะรีวิวกันในครั้งนี้ โดยทั้ง 2 รุ่นมีจุดแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งเพื่อนๆ สามารถอ่านรายละเอียดได้จากที่นี่ครับ และเราน่าจะได้รีวิว Lumia 640 ธรรมดาภายหลัง เพราะฉะนั้นผมจะข้ามรายละเอียดของเจ้ารุ่นนั้นไปก่อนนะครับ

เช่นเคยครับ รีวิวของผมจะประกอบไปด้วยหัวข้อต่างๆ ดังนี้

แกะกล่อง
แรกสัมผัสและการออกแบบ
สเปคและผลการทดสอบ
หน้าจอ
ระบบปฏิบัติการ Windows phone 8.1 update 2
กล้องและผลการถ่ายภาพ
ความบันเทิง การเล่นเกมส์และดูหนังฟังเพลงและการใช้งานเป็นโทรศัพท์
GPS และการใช้เป็นแผนที่นำทาง, Microsoft Office
แบตเตอร์รี่
สรุปผล

แกะกล่อง

สำหรับ Microsoft Lumia 640 XL รุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเรานั้น จะเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม (Dual Sim) และรองรับความเร็วการเชื่อมต่อสูงสุดที่ 3G นะครับ (ส่วน Lumia 640 จะรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุด 4G แต่จะรองรับการใช้งานแค่ซิมเดียวเท่านั้น)

กล่องของเจ้า Lumia 640 XL ยังคงเอกลักษณ์ของมือถือตระกูล Lumia ยุคปี 2014 เหมือนเดิม คือทรงสี่เหลี่ยมเกือบๆจะจัตุรัส แต่ด้วยความที่เจ้า Lumia 640 XL นั้นมีขนาดตัวเครื่องค่อนข้างใหญ่ เลยทำให้กล่องของบรรจุมีขนาดใหญ่ตาม ซึ่งตอนที่จับครั้งแรกก็รู้สึกว่า กล่องใหญ่พอสมควรครับ

ภายในยังคงมีอุปกรณ์พื้นฐานเช่นเดิม คือหูฟังและสายชาร์จ และเป็นรุ่นเดิมที่ Microsoft แถมมาให้กับมือถือ Lumia รุ่นกลางถึงล่าง คือหูฟังรุ่น WH-108 ที่คุณภาพเสียงพอฟังได้ (แบบแบนๆ) และสายชาร์จรุ่น AC-20U ที่เป็นที่แค่ชาร์จเท่านั้นไม่สามารถแยกเป็นสายดาต้าได้ ต้องหาซื้อเพิ่มเติมเองทีหลังนะครับ

สเปค

สำหรับสเปคอย่างละเอียด เพื่อนๆสามารถอ่านได้จากที่นี่ครับ

แต่ผมจะกล่าวถึงสเปคเด่นๆของเจ้า Lumia 640 XL คร่าวๆดังนี้

ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 update 2 with Lumia Denim รองรับการอัพเกรดเป็น Windows 10 ในอนาคต
ชิปเซ็ท: Qualcomm Snapdragon 400 (MSM8226), 1.2 GHz quad-core processor
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD 720p (1280×720), 16:9, ความหนาแน่นของเม็ดสี 259 PPI และกระจก Corning Gorilla Glass 3 พร้อมฟังก์ชั่น Glance screen, , Sunlight readability
แรม 1GB
หน่วยความจำภายใน 8 GB ขยายเพิ่มได้ด้วย Micro SD Card สูงสุด 128 GB
กล้องหลัก: ความละเอียด 13 MP เลนส์ Zeiss พร้อมระบบออโต้โฟกัส, เซ็นเซอร์ขนาด 1/3”, f/2.0,
บันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p ที่ 30 fps video (พร้อมระบบออโต้โฟกัสต่อเนื่อง), มาพร้อมซอฟท์แวร์ Lumia Camera เวอร์ชั่น 5.0 (Dynamic Flash, HDR)
กล้องหน้า: HD 5 MP มุมมองกว้าง, f/2.4, บันทึกวิดีโอความละเอียด HD 720p
การเชื่อมต่อ: บลูทูธ 4.0, micro USB 2.0, A-GPS+GLONASS, DLNA, Screen cloning with Miracast, WLAN 802.11 b/g/n/, NFC
ซิมแบบ Micro Sim
เซ็นเซอร์: Accelerometer, Magnetometer, Proximity, Ambient Light Sensor
แบตเตอร์รี่ขนาด 3,000 mAh (BV-T4B) แบบถอดได้
น้ำหนัก: 171กรัม
ขนาด (กว้างxยาวxหนา): 157.9 x 81.5 x 9 มม.
สี: ฟ้า, ส้ม, ขาว (Glossy) และ ดำ (Matt)

แรกสัมผัสและการออกแบบ

จุดเด่นจุดแรกที่ผมสัมผัสได้จากเจ้า Lumia 640 XL คือตัวเครื่องสีที่ผมได้มารีวิวนั้นเป็นสีขาวที่ใช้วัสดุพลาสติก Polycarbonate แบบผิวมัน (Glossy) ซึ่งแรกสัมผัสต้องบอกว่า ผมคิดว่ามันเป็นมือถือ Lumia ที่สวยมากรุ่นหนึ่งในยุคหลังๆ เลย(และคนรอบตัวผมก็บอกอย่างนั้นหลายคน) ซึ่งผมไม่ทราบว่าเพราะอะไรเหมือนกันครับ เนื่องจากหากมองเผินๆแล้ว การออกแบบเจ้า Lumia 640 XL เอง ก็ไม่ต่างไปจากมือถือตระกูลนี้ไปมากนัก แต่คาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะเพราะมุมเครื่องที่โค้ง ขอบเครื่องที่ออกแบบมาเป็นเหลี่ยมมุมที่รับกันได้แบบบอกไม่ถูก และวัสดุของรุ่นสีขาวที่มันเงาพอดี องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้มันออกมาสวยในสายตาผม

แต่ทั้งนี้ นิยามคำว่าสวยแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นเพื่อนๆต้องลองไปดูและจับของจริงกันอีกครั้ง

ด้วยหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ที่ลดขนาดจากมือถือตระกูลแฟ๊บเล็ตรุ่นแรกๆของ Nokia ลงเล็กน้อย จึงเลี่ยงไมได้ที่ต้องจับมาเปรียบเทียบกัน สำหรับรุ่นพี่อย่าง Lumia 1520 และรุ่นน้องหน้าใหม่อย่าง Lumia 640 XL ซึ่งจะเห็นว่าขนาดหน้าจอที่ต่างกัน 0.3 นิ้วนั้น ทำให้ขนาดเครื่องต่างกันแบบรู้สึกได้ ซึ่งถ้าลองวัดในเชิงตัวเลขกับรุ่นก่อนๆ จะได้ผลดังนี้ครับ

[ซ้าย] Lumia 640 XL หน้าจอ 5.7 นิ้ว [ขวา] Lumia 1520 หน้าจอ 6 นิ้ว

	Lumia 640 XL	Lumia 1320	Lumia 1520	Lumia 535
หน้าจอ	5.7 นิ้ว	6 นิ้ว	6 นิ้ว	5 นิ้ว
กว้าง (มม.)	81.5	85.9	85.4	72.4
ยาว (มม.)	157.9	164.2	162.8	140.2
หนา (มม.)	9 (วัดจากกล้องที่ยื่นออกมา)	9.8	8.7	8.8
น้ำหนัก (กรัม)	171	220	206	145.3

เรื่องของงานประกอบไม่มีอะไรต้องติ เจ้า Lumia 640 XL นี่งานประกอบแน่นดีมาก แม้ว่าตัวเครื่องจะสามารถถอดฝาหลังและแบตเตอร์รี่ได้ แต่ถ้ามองเผินๆอาจจะไม่รู้เลยว่าเจ้ารุ่นนี้ ถอดเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ได้ครับ

ขอบเครื่องกับฝาหลังเรียบสนิท

ข้อติในเรื่องงานออกแบบ สำหรับผมน่าจะอยู่ที่ ขอบจอทั้งบน ล่าง ซ้าย และขวาเลยที่เหลือพื้นที่เยอะมากๆ ทำให้ตัวเครื่องใหญ่กว่าที่ควรจะเป็น ถ้าลดพื้นที่ตรงนี้ไปได้ โดยเฉพาะด้านล่างของหน้าจอ เนื่องจากเจ้า Lumia 640 XL นั้นย้ายแถบนำทาง หรือ Navigation button เข้าไปอยู่ในหน้าจอแล้ว (ไม่ใช่ปุ่มจริงแบบหลายๆรุ่น) เพราะฉะนั้นขอบด้านล่างหน้าจอยิ่งไม่ควรที่จะเหลือเยอะขนาดนี้ และนั่นทำให้เจ้า Lumia 640 XL มีขนาดเครื่องใหญ่กว่า Samsung Galaxy Note 4 ที่มีขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้ว เท่ากันไปพอสมควร

ขอบล่างเหลือเยอะพอสมควร

ข้อติอีกเรื่องเลยเป็นผลเกี่ยวเนื่องกัน นั่นคือ พอตัวเครื่องใหญ่ มันเลยไม่ใช่มือถือที่ทุกคนจะจับแล้วสบายมือครับ นั่นจึงทำให้เจ้า Lumia 640 XL จะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบไปเลย ขึ้นกับว่าคนนั้นๆรับได้กับมือถือตัวเครื่องใหญ่ได้ขนาดไหนนั่นเอง แต่สำหรับตัวผมที่มือใหญ่อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาครับ

ข้อติสุดท้ายสำหรับเรื่องตัวเครื่อง นั่นคือสำหรับสีขาวที่เป็นวัสดุผิวมันนั้น ถึงแม้จะสวย แต่ก็แลกมากับรอยนิ้วมือบนเครื่องที่ติดง่ายมาก ซึ่งอาจจะไม่ใช่ปัญหาเพราะเราก็ใส่เคสกันอยู่แล้ว แต่ถ้าคนที่ใช้แบบไม่ใส่เคสก็อาจต้องเช็ดรอยนิ้วมือกันบ่อยหน่อยนะครับแต่เท่าที่ผมใช้มาแบบไม่ใส่เคสราวๆ 2 สัปดาห์ ผมไม่เจอปัญหาเครื่องเป็นรอยขีดข่วนนะ ถือว่าข้อนี้ทำออกมาได้ดี

รอยนิ้วมือเพียบ

ภาพตัวเครื่องในมุมต่างๆ มีดังนี้

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีพอร์ตหรือปุ่มใดๆ

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มมาตรฐาน (เดิม) ของ Windows phone คือปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง และปุ่ม power

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และที่เด่นคือการออกแบบเส้นสายบนตัวเครื่อง ซึ่งเล่นกับช่องหูฟังเล็กน้อย

ด้านบนของหน้าจอมีกล้องหน้าความละเอียด 5 MP รวมถึงเซ็นเซอร์วัดแสง (Ambient light sensor) และเซ็นเซอร์วัดระยะห่างจากหน้าจอ (Proximity sensor) ด้วย

ส่วนด้านหลังเป็นโมดูลกล้อง ด้านบนมีแฟลช LED และช่องลำโพงที่วางเอาไว้ด้านข้างของกล้องหลัก

ข้อติอย่างเดียวเรื่องโมดูลกล้องคือ เรื่องของการนูนขึ้นมาของเลนส์กล้อง ที่นูนขึ้นมาเยอะพอสมควร แต่ตัวเลนส์ก็ไม่ได้สัมผัสกับพื้นโดยตรงนะครับ เพราะจะมีส่วนฝาหลังที่ยื่นพ้นตัวเลนส์ออกมานิดหน่อย (นิดเดียวจริงๆ) เพื่อป้องกันหน้าเลนส์

กล้องยื่นออกมาเยอะพอสมควร

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ครับ ฝาหลังของเจ้า Lumia 640 XL สามารถถอดออกได้ และเมื่อถอดออกมาเราก็จะพบกับแบตเตอร์รี่ขนาด 3,000 mAh ที่เป็นขุมพลังของเจ้านี่ รวมถึงข่องเสียบซิมและการ์ด Micro SD

อ้อ Lumia 640 XL ใช้ซิมแบบไมโครซิมนะครับ และการเปลี่ยนซิมรวมถึง SD Card นั้น เราต้องถอดแบตเตอร์รี่ออกก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก

ผลการทดสอบ

ด้วยสเปคระดับกลางๆ ที่เทียบเท่ากับมือถือรุ่นพี่อย่าง Lumia 730 และ 830 ทำให้เจ้ามือถือรุ่นกลางถึงล่างตัวนี้ มีผลการทดสอบประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างจากทั้ง 2 รุ่นที่ว่ามาเลย โดยผลการทดสอบอยู่ด้านล่างนี้ครับ

ถ้าเทียบกับผลการทดสอบของรุ่นก่อนหน้า จะได้ผลตามตารางด้านล่าง

	Lumia 640 XL	Lumia 730	Lumia 830	Lumia 535
Antutu Benchmark	11907	11540	12019	11650
BaseMark OS II	440	454	483	408

ชิปเซ็ท Snapdragon 400 MSM8226 ที่ใช้งานในเจ้า Lumia 640 XL นั้น ถึงแม้จะให้ผลการทดสอบที่ไม่หวือหวา แต่ด้วยสเปคระดับนี้ รวมกับแรม 1 GB ที่ให้มา ก็เรียกว่าสามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ Windows phone แบบเหลือๆแล้ว

จากการใช้งานที่ผ่านมา ผมยังไม่เจอปัญหาเรื่องระบบประมวลผลไม่ทัน (หรือที่ขึ้นหน้าจอ “กำลังคืนกลับการทำงาน” เหมือนรุ่นอื่นๆในซีรียส์ 6XX ลงไปนะครับ เรียกว่าใช้งานได้ลื่นไหลดีพอๆกับรุ่นใหญ่กว่าอย่าง Lumia 730 และ 830 เลย (แหงละ ก็สเปคไม่ต่างกันเลยนี่นา)

ด้วยสเปคนี้ ทำให้การเล่นเกมส์ที่มีใน Windows phone store ไม่มีปัญหาอะไรกับเจ้า Lumia 640 XL ครับ ลื่นสบายๆเลย

ซึ่งสรุปสั้นๆ ง่ายๆตรงนี้ว่า ประสิทธิภาพการทำงาน คุ้มกับราคาและเหมาะกับการใช้งานระบบ Windows phone ดีอยู่แล้วครับ

หน้าจอ

แม้จะเป็นมือถือซีรียส์กลางถึงล่าง แต่เจ้า Lumia 640 XL เองก็มีหน้าจอที่โดดเด่น ด้วยหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.7 นิ้วแบบ HD 720p (1280 x 720 พิกเซล) แถมด้วยเทคโนโลยีจาก Nokia เดิมอย่าง ClearBlack Technology, โหมดความคมชัดกลางแจ้ง รวมถึงระบบการปรับโทนสี (Color Profile) และการควบคุมความสว่าง (Brightness Profile) และกระจก Gorilla Glass 3 ทำให้ผมมองว่ามันเป็นมือถือราคาไม่สูงมาก แต่มีหน้าจอที่สวยงามเกินระดับราคาไปเลย

ถึงแม้ตัวเลขสเปค ความหนาแน่นของเม็ดสีต่อตารางนิ้ว (PPI) จะไม่สูงนักที่ 259 PPI แต่บอกได้แค่ว่า การใช้งานทั่วๆไป ไม่มีปัญหาครับ

นอกจากนี้ฟังก์ชั่น Glance Screen ที่หลายๆคนชอบ ก็มีให้ใช้ด้วย (ด้วยอานิสงค์ของการใช้หน้าจอแบบ LCD แบบมีหน่วยความจำภายในนั่นเอง)

การอ่านหน้าจอกลางแจ้งไม่มีปัญหาอะไรนะครับ (หากเราเปิดโหมดความสว่างแบบออโต้ไว้) และมุมมองของหน้าจอก็กว้างดีทีเดียว เรียกว่ามองในระดับระนาบเดียวกับหน้าจอ ก็ยังมองเห็นได้ชัดเจนอยู่

อ่านเว็บกลางแจ้งได้สบายๆ

เรื่องหน้าจอเลยถือว่าสอบผ่านเลยครับสำหรับเจ้า Lumia 640 XL

ติดแค่เรื่องเดียว หน้าจอเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก...แต่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหานะครับ เพราะว่าส่วนมากเราก็ติดฟิลม์กันรอยกันตั้งแต่ซื้อจากร้านกันอยู่แล้ว

นอกจากนี้หน้าจอของ Lumia 640 XL รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์ และหน้าจอไม่มีปัญหาเรื่องการทัชเหมือนกับรุ่น Lumia 535 แล้วครับ

ระบบปฏิบัติการ Windows phone 8.1 update 2 เวอร์ชั่นล่าสุดอย่างเป็นทางการก่อนใคร

Microsoft Lumia 640 XL เป็นหนึ่งในมือถือรุ่นแรกๆ ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ Microsoft อย่าง Windows phone 8.1 update 2 ซึ่งถึงแม้ว่าอัพเดทนี้จะไม่ได้มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในแง่ของคุณสมบัติในตัวระบบปฏิบัติการ แต่ก็มีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆเข้ามาหลายอย่างพอสมควร

ซึ่งเราเคยเขียนถึงเจ้าระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้เอาไว้แล้ว และเพื่อนๆสามารถอ่านได้จากที่นี่ครับ

เสียดายที่ผมไม่มีคีย์บอร์ดบลูทูธให้ทดสอบ แต่ยืนยันแล้วว่า Windows phone 8.1 update 2 รองรับการใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดบลูทูธแน่นอน แต่สำหรับรีโมทไม้เซลฟี่ ตัวระบบรองรับการจับคู่แต่ยังไม่สามารถใช้สั่งให้บันทึกภาพได้ น่าจะเพราะยังไม่มีการเขียนแอพให้รองรับครับ

คุณสมบัติหนึ่งที่ผมชอบและคาดว่าน่าจะมีในมือถือรุ่นใหม่ๆจาก Microsoft หลังจากนี้ นั่นคือคุณสมบัติเคาะที่แถบนำทาง 2 ครั้งเพื่อล็อกหน้าจอ ซึ่งเมื่อเราใช้งานร่วมกับคุณสมบัติที่มีมาก่อนหน้านี้อย่างเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกเครื่อง (Double tap to wake) นั่นทำให้เราสามารถล็อกและปลดล็อกหน้าจอได้โดยที่ไม่ต้องใช้ปุ่ม Power เลยทีเดียว

ฟังก์ชั่นที่จะมีใน Windows phone 8.1 update 2 ทุกรุ่น ที่มีแถบนำทางบนหน้าจอ

และคุณสมบัติเด่นอีกอันใน Windows phone 8.1 update 2 คือการติดตามข้อมูลการเคลื่อนไหว ที่ทำงานได้อย่างแม่นยำและแสดงผลได้ละเอียดมากขึ้น ซึ่งเป็นทั้งแง่ดี และแง่ร้าย...แล้วแต่มุมมองครับ (คุณนพเคยเขียนเรื่องของคุณสมบัตินี้เอาไว้แล้ว ที่นี่)

ติดตามได้แบบละเอียดยิบ ใน 24 ชั่วโมงที่แล้วไปไหนมา...บอกหมด

ฟังก์ชั่นการแชร์หน้าจอไปบนสมาร์ททีวีแบบไร้สายก็มีอยู่ในรุ่นนี้นะครับ เรียกว่าฟังก์ชั่นเด่นๆไม่แพ้รุ่นใหญ่เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยลบช่องว่างด้านแอพพลิเคชั่นที่เป็นจุดอ่อนใหญ่หลวงของระบบปฏิบัติการนี้ลงไปได้ เพราะฉะนั้นแอพอะไรที่เคยไม่มี หรือยังไม่ดี ตอนนี้ก็ยังคงไม่มีและยังไม่ดีเหมือเดิม เกมส์ไลน์ไม่มียังไง ตอนนี้ก็ยังไม่มีแบบนั้น

และสุดท้ายในแง่ของซอฟท์แวร์ เจ้า Lumia 640 XL ยังเป็นมือถือรุ่นที่ไม่ได้มาพร้อมเทคโนโลยี PureView ตัวแรกที่ได้ใช้งานแอพ Lumia Camera เวอร์ชั่น 5 (ที่แม้แต่รุ่นใหญ่กว่าอย่าง Lumia 730 เองก็ไม่สามารถใช้งานได้) นั่นทำให้การถ่ายภาพของเจ้า Lumia 640 XLจะดีกว่ารุ่นพี่อย่าง 730 ไปอีกขั้น ด้วยเลนส์ที่มีความละเอียดมากกว่า รวมถึงโหมด Rich Capture ที่ใช้ถ่ายภาพแบบ HDR ได้สวยงามดีทีเดียว ซึ่งผมจะได้กล่าวถึงในส่วนกล้องต่อไปครับ

อ่อ เจ้า Lumia 640 XL รองรับการอัพเกรดเป็น Windows 10 แน่นอนครับผม

กล้องและการถ่ายภาพ มือถือซีรียส์กลางถึงล่าง ที่มาพร้อมความละเอียดระดับ 13 MP คุณภาพเกินราคา

สเปคกล้องหลักของเจ้า Lumia 640 XL แรงเกินราคาครับ ด้วยความละเอียด 13 MP เลนส์ Zeiss พร้อมระบบออโต้โฟกัส, เซ็นเซอร์ขนาด 1/3”, f/2.0, บันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p ที่ 30 fps video (พร้อมระบบออโต้โฟกัสต่อเนื่อง), มาพร้อมซอฟท์แวร์ Lumia Camera เวอร์ชั่น 5.0 (Dynamic Flash, HDR) ปรับ speed shutter ได้สูงสุด 3 วินาทีและ ISO สูงสุดที่ 3200 (ในโหมดโปร)

นั่นทำให้การใช้งานกล้องจึงเป็นจุดเด่นหนึ่งของมือถือรุ่นนี้

การถ่ายภาพนิ่ง

บน Lumia 640 XL นั้นเราจะไม่สามารถเลือกบันทึกภาพแบบ 2 ความละเอียดได้แบบรุ่นใหญ่ แต่จะบันทึกภาพที่ความละเอียดราว 10 MP สำหรับภาพอัตราส่วน 16:9 และความละเอียด 13 MP ที่อัตราส่วน 4:3 และมีขนาดไฟล์รูปละราวๆ 2.5 - 3.7 MB

ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก Lumia 640 XL กันครับ

** ภาพทั้งหมดถูกลดความละเอียดลงนะครับ แต่ทุกท่านสามารถดูภาพต้นฉบับได้จากที่นี่ครับ

ภาพในสภาวะแสงปกติ

ภาพในสภาวะแสงน้อย

ภาพในสภาวะแสงน้อยมาก

จากตัวอย่างภาพทั้งหมด ต้องบอกว่า Lumia 640 XL ถ่ายภาพในแสงปกติออกมาได้ดี ไฟล์ภาพค่อนข้างละเอียดและเมื่อซูมดูไฟล์ต้นฉบับเข้าไปใกล้ๆจะเห็นว่า รายละเอียดของภาพอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลย จะต่างกับมือถือหลายๆรุ่นที่มองจากภาพใหญ่แล้วสวย แต่ซูมเข้าไปใกล้แล้วรายละเอียดจะหายไปหมดเพราะใช้ซอฟท์แวร์ประมวลผลมากเกินไป

ภาพปกติ

ซูม 100%

ส่วนข้อด้อยน่าจะอยู่ที่ ซอฟท์แวร์ประมวลผลของ Microsoft ที่ทำให้สีสันของภาพออกมาไม่สดเท่าของจริง ยิ่งโดยเฉพาะในสภาวะแสงน้อย ความสดของสีจะหายไปเยอะมาก จนต้องใช้การแต่งภาพเข้าช่วยหากต้องการให้ได้ภาพที่มีสีสันเยอะขึ้น

ภาพฟักทองที่สีซีดกว่าความเป็นจริง

ส่วนตัวผมมองว่าหาก Microsoft จะปรับปรุงเรื่องซอฟท์แวร์ประมวลเรื่องสีสันของภาพอีกสักหน่อย (เพราะไมได้เป็นแค่กับรุ่นนี้นะครับ รุ่นใหญ่ๆก็เป็น) น่าจะดีไม่น้อย (แต่ไม่เอาแบบสดเวอร์เกินจริงนะครับ)

ภาพแบบ HDR ย้อนแสงด้วยฟังก์ชั่น Rich Capture

เปิดโหมด Rich Capture ด้วยการแตะที่ไอค่อนไม้เท้าวิเศษ

ด้านลูกเล่นนั้นอย่างที่ได้เกริ่นไปครับ เจ้า Lumia 640 XL มาพร้อมแอพ Lumia Camera เวอร์ชั่น 5 ทำให้การถ่ายภาพแบบ Rich Capture ที่ถ่ายก่อนและปรับทีหลัง ทั้งเอฟเฟค HDR รวมถึงการปรับแต่งความเข้มของเอฟเฟค HDR และถ้าเราถ่ายรูปแบบเปิดแฟลช เราก็สามารถปรับความแรงของแฟลชได้อีกด้วย ซึ่งนี่เคยเป็นฟังก์ชั่นที่มีแต่ใน Nokia Lumia 830, 930 และ 1520 แต่ Microsoft ก็เลือกใส่เข้ามาในมือถือรุ่นกลางล่างอย่างเจ้า Lumia 640 XL ด้วยครับ

นอกจากนี้ Microsoft Lumia 640 XL ยังรองรับลูกเล่น Living image หรือการบันทึกวิดีโอก่อนถ่ายภาพซึ่งเป็นลูกเล่นที่ผมประทับใจตั้งแต่บน Lumia 930 แล้ว ซึ่งเมื่อรวมกับแอพ Lumia Story Teller แล้ว เราก็สามารถสร้างวิดีโอน่ารักๆที่นำภาพของเรามาร้อยต่อกันเป็นเรื่องราวได้ แบบนี้นั่นเอง (ขออนุญาตใช้ตัวอย่างเก่าจาก Lumia 830 นะครับ เพราะความจริงฟังก์ชั่นนี้จะเหมือนกันครับ)

กล้องหน้า

ความละเอียด 5MP ที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นการรียูสโมดูลกล้องมาตั้งแต่ตอน Lumia 730 แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้เป็นประเด็นอะไร เพราะซอฟท์แวร์ดูจะได้รับการปรับปรุงขึ้น คุณภาพที่ได้น่าพอใจในหลายๆสภาวะแสงครับ แต่ถ้าแสงน้อยมากๆ ก็เดี้ยงได้เหมือนกัน เพราะน๊อยซ์จะมาแบบเต็มๆเลย

แสงน้อยปุุ๊บ น๊อยซ์มาปั๊บ

วิดีโอ

Lumia 640 XL รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด Full HD 1080p รองรับการซูมวิดีโอได้ 4 เท่า ซึ่งมีค่อยหาได้ง่ายๆในมือถือรุ่นกลางล่างของ Nokia และ Microsoft คุณภาพของภาพไม่มีประเด็น ระบบออโต้โฟกัสและ Continuous focus รวมถึงการปรับแสงทำงานได้ในระดับที่น่าพอใจ

นอกจากนี้ ด้วยซอฟท์แวร์ Lumia Camera เวอร์ชั่น 5 ทำให้เราสามารถเลือกจุดที่จะโฟกัสและวัดแสงระหว่างการถ่ายวิดีโอได้ด้วย (Lumia 730 รุ่นใหญ่กว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ)

เลือกจุดโฟกัสและวัดแสงได้ระหว่างถ่ายวิดีโอ

ลองมาดูตัวอย่างกันครับ

วิดีโอแสดงการปรับแสงอัตโนมัติ

วิดีโอทั่วๆไป

จุดด้อยน่าจะอยู่ที่ไมโครโฟน ที่เป็นไมคแบบธรรมดาเพียง 1 ตัว ที่ทำให้คุณภาพด้านการบันทึกเสียงวิดีโอ ไม่ได้ดีเท่ากับมือถือรุ่นบนๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นนัก หากเราเทียบกับระดับราคาของมันนะครับ

ความบันเทิง การเล่นเกมส์และดูหนังฟังเพลง

ในด้านความบันเทิงนั้น Lumia 640 XL ตอบสนองได้ในระดับที่น่าพอใจ ในเรื่องของการเล่นเกมส์เอง ด้วยสเปคที่ถึงแม้จะไม่สูงมากแต่ด้วยแรม 1GB ที่ให้มาทำให้เล่นเกมส์ได้ทุกเกมส์ที่มีอยู่ใน windows phone store ตอนนี้

และด้วยหน้าจอ HD 720p ภาพที่ได้จากการเล่นเกมส์ก็ออกมาสวยน่าพอใจ

แต่ด้วยหน่วยความจำภายในที่ 8 GB ทำให้อาจจะไม่พอใช้เท่าไหร่ถ้าคุณเป็นคนชอบเล่นเกมส์ รวมถึงไฟล์ภาพจากกล้องที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ SD Card เป็นเพื่อนที่ดีของคุณครับ

พื้นที่ 8 GB เหลือใช้จริงๆราว 3 - 4 GB

การดูหนัง

ด้วยหน้าจอที่สวย ถึงแม้จะไม่ระดับ Full-HD แต่ด้วยความละเอียด HD 720p ผมว่าก็ตอบสนองความต้องการได้ในระดับที่น่าพอใจแล้วครับ จะดูคลิปแบบ Full-HD ก็ได้ แต่การแสดงผลจะออกมาแค่ 720p เท่านั้น (ตามสเปคหน้าจอ)

สีสันของวิดีโอสวยงามเลย ดูอนิเมชั่นหรือหนัง CG สีสดๆ บนหน้าจอใหญ่ๆ เต็มตา ฟินไปอีกแบบครับ

ลำโพงยังเป็นเรื่องที่ Microsoft ต้องปรับปรุง เพราะคุณภาพของเสียงที่ได้ไม่ถือว่าดีเท่าไหร่และเสียงเบาไปซักนิด แต่ด้วยความที่โมดูลกล้องนูนขึ้นมา ทำให้ตำแหน่งของลำโพงที่วางไว้ข้างๆโมดูลกล้อง ไม่ติดกับพื้นในตอนที่เราวางเครื่องราบไปกับพื้น ทำให้เสียงลำโพงดังฟังชัดอยู่แม้จะวางเครื่องในแนวนอนก็ตาม

ลำโพงที่มาอยู่ในตำแหน่งแปลกพอสมควร

การฟังเพลง

Mix Radio ที่ไม่ exclusive แล้ว แต่ก็ยังใช้งานได้ดี

Lumia 640 XL มาพร้อมฟังก์ชั่นการปรับอีควอไลเซอร์ ซึ่งน่าจะเป็นมาตรฐานของมือถือ Lumia ยุคนี้หมดแล้ว (เพราะแม้แต่รุ่นเล็กสุดที่วางจำหน่ายในตอนนี้อย่าง Lumia 432 ก็มีมาแล้วเช่นกัน) พร้อมระบบ Virtual Surround Sound

การฟังเพลงจึงอยู่ในระดับที่ฟังได้เพลินๆ หากจับคู่กับหูฟังดีๆสักคู่ นอกจากนี้ก็ยังมีบริการ Mix Radio ของ Microsoft ที่หลายๆคนชื่นชอบติดมาด้วยเช่นกัน

การท่องเว็บ และการอ่านเอกสาร

ไม่มีอะไรให้ต้องติ ด้วยคุณภาพหน้าจอที่เหลือเฟือสำหรับการท่องเว็บแบบนี้ครับ การอ่านเว็บไซต์ทำได้อย่างไม่มีปัญหาตัวอักษรคมชัดตามที่ควรเป็น แถมด้วยหน้าจอที่ใหญ่ เรียกได้ว่าการใช้งานท่องเว็บทั่วไปไม่มีอะไรติดขัด

แต่สำหรับการจัดการเอกสาร Microsoft Office ที่ตัวแอพยังไม่เคยได้รับการอัพเดทเลยตั้งแต่การมาของ Windows phone 8 แถมตอนี้แอพ Office บนระบบคู่แข่งดันพัฒนาไปไกลกว่า ทำให้จุดเด่นเรื่อง Microsoft Office บนมือถือ Lumia ไม่ได้เป็นจุดเด่นอีกต่อไป แต่ก็ยังใช้งานพอได้ครับ อ่านเอกสาร แก้ไขเอกสารเล็กๆน้อยได้ไม่ติดขัด ไม่ได้สามารถทำงานแทนโปรแกรม Microsoft Office บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างแน่นอน

คงต้องฝากความหวังเอาไว้กับ Office เวอร์ชั่นใหม่บน Windows 10 เสียแล้ว

ระบบแผนที่นำทาง

ถึงแม้แอพคู่บุญอย่าง Here Map จะไม่ได้เป็น exclusive บน Windows phone อีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังถือว่าระบบ HERE Maps บน Lumia 640 XL ก็ยังทำงานได้ดีไม่มีปัญหา การจับสัญญาณ GPS เร็วและแอพ HERE Maps รวมถึงแอพอื่นๆในตระกูล HERE ก็ทำงานได้รวดเร็วดี

ฟังก์ชั่น Live Sight มีอยู่ไม่โดนตัดเหมือนมือถือรุ่นกลางถึงล่างรุ่นอื่นๆนะครับ

การใช้งานในฐานะโทรศัพท์

Microsoft Lumia 640 XL ในแง่การใช้งานเป็นโทรศัพท์ทั่วไป คุณภาพเสียงสนทนายังคงดีตามมาตรฐาน Microsoft / Nokia เสียงชัดเจนและไม่มีปัญหา (ขึ้นกับสัญญาณโทรศัพท์ด้วยนะครับ)

และรุ่นนี้เป็นรุ่น 2 ซิมที่รองรับระบบ Smart Dual Sim ของ Windows phone รองรับการใช้งานโทรศัพท์ทั้ง 2 ซิมแบบ Dual Stand by แต่สำหรับการใช้งาน 3G นั้นเราต้องเลือกว่าจะให้ใช้งาน 3G ผ่านซิมใด จากการตั้งค่า

การเชื่อมต่อ WiFi ไม่มีปัญหา เชื่อมต่อได้รวดเร็วและใช้งานได้ดี

แบตเตอร์รี่ 3,000 mAh อึดมั้ย? อึดสิ

จากที่ผมได้อยู่กับเจ้า Lumia 640 XL มาตลอด 2 สัปดาห์ ต้องบอกว่าอายุการใช้งานแบตเตอร์รีของมันน่าพอใจครับ

ด้วยสเปคที่ไม่ได้แรงมาก หน้าจอไม่ได้ละเอียดมากและไม่รองรับ 4G แต่มาพร้อมกับแบตขนาด 3,000 mAh เพราะฉะนั้นเราสามารถคาดหวังได้ว่าอายุการใช้งานแบตเตอร์รี่น่าจะยาวพอสมควร และมันก็เป็นเช่นนั้น

ทั้งนี้ การใช้งานของผม ก็เหมือนกับตอนที่ใช้งานมือถือทุกรุ่น (เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน) จากที่ผมได้ใช้งานและตั้งค่าเครื่องแบบเดียวกับที่เคยตั้งตอนใช้งานกับมือถือ Lumia ที่ผมทดสอบทุกรุ่น คือ

ปิด NFC และ งานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็นทั้งหมด
เปิดงานเบื้องหลังเหล่านี้เอาไว้ Facebook beta, Line, Email อีก 3 ฉบับ, Internet Explorer, Store, Battery Saver, Whatsapp, Music, OneDrive,
เปิด 3G, WiFi GPS Bluetooth ไว้ตลอดเวลา
ตั้งค่าความสว่างเป็น Auto
เปิดคุณสมบัติการปรับภาพหน้าจอให้คมชัดกลางแจ้ง (Sunlight readability) ไว้ด้วยเพื่อทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอ

การใช้งานเน้นที่การโทรศัพท์ อ่านข่าวบนรถไฟฟ้ารวมถึงดูแล Fan page นอกจากนี้ก็เล่น Social network อย่าง Line, Facebook รวมถึง Twitter และ Instagram เป็นปกติ เปิดเว็บไซต์อีกพอสมควร ดู YouTube อีกนิดหน่อย อาจจะไม่หนักเท่าคนที่เล่นเยอะๆ แต่ก็ไม่น้อย

ปล. ผมเป็นคนไม่เล่นเกมส์นะครับ

ผลการทดสอบก็ออกมาตามนี้ครับ

อายุการใช้งานแบตเตอร์รี่แบบทั่วไปในวันที่ใช้งานตามปกติ จะอยู่ได้ราวๆ 10-13 ชั่วโมง และถ้าใช้งานน้อยบางวันสามารถอยู่ได้แบบข้ามวันกันเลยทีเดียว ซึ่งส่วนตัวผมสามารถใช้งานแบบพ้นวันได้สบายๆ

ที่น่าสนใจคือ ตั้งแต่ Windows phone 8.1 update เป็นต้นมา อัตราการใช้งานแบตเตอร์รี่ของมือถือ Windows phone ในโหมด Stand by ทำออกมาได้ดีขึ้น คือถ้าเราไม่ใด้เปิดหน้าจอมันขึ้นมาเลย (แต่มีเมลเข้า ไลน์เข้า หรือการแจ้งเตือนต่างๆเข้ามาตามปกติ) อัตราการใช้งานแบตเตอร์รี่จะอยู่ที่ช่วง 2-3% ต่อ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนที่ไม่มีคนทักไลน์มาเลย และเมลไม่ค่อยเข้ารวมถึง Social network ต่างไม่เตือนอุตลุต ผมสังเกตได้ว่า Lumia 640 XL จะมีอัตราการใช้พลังงานที่ราว 1-2% ต่อชั่วโมงเท่านั้น

ปัญหาความร้อน: สบายใจได้ ไม่มีให้กวนใจ

ตอบสั้นๆ ไม่มีมากวนใจแน่นอนครับ ยกเว้นตอนเล่นเกมส์กราฟิกหนักๆ ต่อเนื่องนานๆเท่านั้นเอง การใช้งานทั่วไปไม่มีความร้อนเข้ามาเป็นปัญหาอะไร

ข้อด้อย

มีพูดถึงประปรายในแต่ละส่วนอยู่แล้ว แต่ขอสรุปเอาไว้ที่นี่นะครับ

ขอบจอใหญ่มากทำให้เครื่องใหญ่กว่าที่ควรจะเป็น
ชิปเซ็ทรุ่นเก่า แต่ก็รับได้กับระดับราคานี้ (แต่ถ้าได้เป็น Snapdragon 410 ที่ถึงจะไม่ได้แรงกว่ากันมาก แต่น่าจะดีในความรู้สึกกว่านี้)
หน้าจอและวัสดุเป็นรอยนิ้วมือง่าย
ภาพที่ได้จากกล้อง สีซีดไปหน่อย กล้องหน้าในสภาวะแสงน้อยยังทำได้ไม่ดีนัก

สรุปท้าย Lumia 640 XL บรรทัดฐานใหม่ของมือถือรุ่นกลางล่างของ Microsoft

ต้องบอกว่า Microsoft Lumia 640 XL สร้างบรรทัดฐานใหม่ในแง่ของสเปคสำหรับมือถือรุ่นกลางถึงล่างของ Microsoft เลยทีเดียว เพราะสเปคออกมาข่มรุ่นกลางที่ออกมาก่อนหน้าอย่าง Lumia 730 แบบจมหาย และคู่คี่กับรุ่นเรือธงราคาประหยัดอย่าง Lumia 830 กันเลย แต่ด้วยราคาที่ต่างกันพอสมควร

ฟังกัชั่นจัดเต็มแบบที่ผมเอ่ยถึงตลอดบทความ กับราคา 7,990 บาท ที่ถ้าเป็นแฟน Lumia และใช้งานมือถือรุ่นเล็กอยู่แล้วต้องการขยับรุ่น และไม่มีปัญหาเรื่องหน้าจอใหญ่ บอกได้เลยว่า Lumia 640 XL น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆของคุณได้ไม่ยาก โดยเฉพาะหากคุณชอบการถ่ายภาพ และด้วยสเปคระดับนี้ ถึงจะเป็นระบบปฏิบัติการอื่นๆ แต่ว่าสเปคของเจ้า Lumia 640 XL ก็ยังสูสีกับหลายๆรุ่นที่ระดับราคาเดียวกัน

แต่ข้อด้อยของด้านระบบ ecosystem ของแอพที่น้อย เมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ การที่คนทั่วไปจะเลือก Lumia 640 XL เป็นมือถือเครื่องหลักซักเครื่องอาจจะเป็นเรื่องยากอยู่ซักหน่อย ถ้าไม่ใช่แฟน Windows phone จริงๆ

อย่างไรก็ดี ย้ำอีกที ถ้าคุณเป็นแฟน Windows phone เจ้า Microsoft Lumia 640 XL ไม่ทำให้คุณผิดหวังครับ

Grade: B ดีน่าใช้

Search This Blog

Nokia's Fan Blog